นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ โควิด-19 เป็นการด่วน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบภายหลัง หลังยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ถ้าเพิ่มเงินเราชนะและ ม.33 เรารักกันคน 1,000-2,000 บาท
วันนี้ (28 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบศ. เป็นการด่วนในวันนี้ (28 มิ.ย. 64 ) เพื่อหามาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ ภายหลังมีคำสั่งยกระดับมาตรการเป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งหมด 10 จังหวัด
ทั้งนี้ จับตาว่ารัฐบาลจะยังคงโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.นี้ หรือไม่ ภายหลังมีกระแสข่าวเสนอเลื่อนออกไปก่อนอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากในปัจจุบันมีคำสั่งล่าสุดที่กำหนดไม่ให้นั่งรับประทานอาหารภายในร้าน เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ดังนั้น มาตรการคนละครึ่ง อาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้ โดยอาจมีการเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มวงเงินในมาตรการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. 2564 จำนวน 1,000-2,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับแรงงานและประชาชนทดแทนไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือน
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะรับทราบรายงานจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายหลังรัฐบาลประกาศยกระดับมาตรการ โดยประเมินว่าจะมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ 4 จังหวัดภาคใต้
สำหรับรูปแบบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการในระบบประกันสังคม เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33 ซึ่งคาดว่า ภาครัฐจะให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1-2 พันบาทต่อเดือน รวมถึงให้กองทุนประกันสังคมจ่ายค่าทดแทนกรณีเหตุสุดวิสัยร้อยละ 50 ในระยะเวลา 1 เดือน ขณะที่ผู้ประกอบการและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะเป็นรูปแบบจ่ายค่าทดแทนในสาขาที่ได้รับผลกระทบ