“แรมโบ้” ระบุนายกฯ ศบค.ทราบดีว่าต้องดำเนินการอย่างไรหลังออกมาตรการปิดแคมป์คนงาน ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสั่งด่วนทหาร-ตำรวจลงพื้นที่แล้ว ไม่ให้คนงานออกนอกพื้นที่ ซัด “ชนินทร์-ชูวิทย์” ทำประโยชน์บ้านเมืองบ้างอย่าดีแต่ปาก ตำหนิคนทำงานอย่างเดียว
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีต ส.ส.และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย วิพากษ์วิจารณ์การประกาศปิดแคมป์คนงานทำให้แรงงานหนีไปต่างจังหวัด จะทำให้เชื้อโควิด-19 ไปแพร่ระบาดในต่างจังหวัด โดยนายเสกสกล ชี้แจงว่าที่ผ่านมามีการระบาดตามแคมป์คนงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่จะออกมาตรการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัด นายกฯ ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และเชื่อมั่นว่ามาตรการนี้จะทำให้ยับยั้งการระบาดลงได้
นอกจากนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงไปช่วยกันดูแลแคมป์คนงานร่วมกับนายจ้างอย่างใกล้ชิดและมอบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วนแล้ว ให้เตรียมกำลังสนับสนุนมาตรการของ ศบค.เพื่อจำกัดควบคุมโรคเฉพาะกลุ่ม และกิจกรรมในพื้นที่เสี่ยงสูงอย่างเข้มงวด ไม่ให้ขยายออกนอกพื้นที่จนไม่สามารถควบคุม ทั้งนี้ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้าพื้นที่แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน เช้าวันนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน สกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด-เข้มงวด เป็น 10 จังหวัด มีผล 28 มิ.ย.นี้ ซึ่งทำให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้นในการดูแล
นายเสกสกล ยังระบุว่า นายกฯ และ ศบค.รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงรู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไร เมื่อประกาศมาตรการออกไปแล้วจะต้องเร่งดำเนินการทันที นอกจากนี้ ยังเตรียมมาตรการรองรับสำหรับแรงงานในแคมป์คนงานแล้ว โดยให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย และงดชดเชยร้อยละ 50 แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ โดยจะมีการเช็กชื่อคนงานทุกวัน มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทุกแคมป์ จนเมื่อมั่นใจว่าปลอดภัย และหากได้รับวัคซีนจะปลดล็อกให้กลับมาทำงานได้
“แม้ว่านายกฯ รัฐบาล จะมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนและยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเห็นด้วยกับมาตรการใดเลย ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยไม่อยากให้สถานการณ์คลี่คลายลง เพียงเพราะอยากจะใช้โอกาสนี้นำมาตำหนิ กล่าวหา โจมตีนายกฯ และรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา”
ส่วนนายชูวิทย์ ที่ออกมาบอกว่านายกฯ แถลงข่าวชู 2 นิ้วเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนั้น ตนเองก็ขอชี้แจงว่าเป็นสัญลักษณ์ คือ V: Vaccination การฉีดวัคซีน และ Victory ชัยชนะ ซึ่งนายกฯ เคยใช้สัญลักษณ์เช่นนี้มาแล้ว นายกฯ ไม่เคยนำเรื่องโควิด-19 มาเป็นเรื่องตลก ขบขัน มีแต่อยากให้สถานการณ์คลี่คลายลง ซึ่งที่ผ่านมา นายกฯ รัฐบาล สาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ได้ทำงานอย่างหนัก นายชูวิทย์ก็เห็นอยู่แล้ว
“และการที่นายกฯ แถลงข่าวร่วมกับแพทย์นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว หากจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ เพราะขณะนี้ยังมีคนที่ออกมาพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนอยู่ เช่น พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และแม้กระทั่งนายชูวิทย์ ที่นึกถึงแต่ตัวเอง วันๆ ไม่ทำอะไรเพื่อประชาชน เพื่อประโยชน์บ้านเมือง ดีแต่ปากพูดกล่าวหาจ้องจับผิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง โจมตี ตำหนิ คนทำงานอย่างเดียว จนเสียขวัญกำลังใจ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้สงสารประเทศชาติประชาชน ดีแต่คอยซ้ำเติมมากกว่า” นายเสกสกล กล่าว
