“คำนูณ” ชี้ หากแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จ ประชาชนในฐานะสมาชิกพรรคจะเสียสิทธิ 3 อย่าง “ไพรมารีโหวต-พิจารณาตัวผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่คำนึงถึงภูมิภาคต่างๆ-ความเท่าเทียมชายหญิง” พร้อมแฉ “พรรคใหญ่ขั้วหนึ่ง” ร่างเอาไว้ว่าห้าม “มีบทบัญญัติใดที่ทำให้เกิดภาระแก่พรรคการเมืองเกินความจำเป็น”
วันที่ 22 มิ.ย. 2564 นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ...
‘ภาระ’ แก่พรรคการเมือง ?
หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าประสงค์ จะไม่ใช่แค่เปลี่ยนระบบเลือกตั้งเท่านั้น แต่หลักการสำคัญที่เกิดขึ้นเพื่อการปฏิรูประบบพรคการเมืองในรัฐธรรมนูญ 2560 โดยให้ประชาชนในฐานะสมาชิกพรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการพิจารณาผู้สมัคร ส.ส.จะหายไปใน 2 ลักษณะ
ในส่วนของ ส.ส.เขต-ระบบไพรมารีโหวตจะหายไป (จากการแก้ไขมาตรา 45)
ในส่วนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ-การให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมโดยต้องคำนึงถึงผู้สมัครจากภูมิภาคต่างๆ และความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิงก็จะหายไป (จากการแก้ไขมาตรา 90)
เมื่อรวมกับระบบบัตร 2 ใบ 400 : 100 คู่ขนาน แถมด้วยกฎคะแนนขั้นต่ำ 1% และกฎต้องส่ง ส.ส.เขตอย่างน้อย 100 เขต จึงจะส่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ที่ผมสรุปไปในโพสต์ก่อนว่าเป็นระบบ ‘สมนาคุณพรรคใหญ่’ แล้วนั้น ใช่หรือไม่ว่าการเมืองก็จะยิ่งเป็นเรื่องของเงิน ? ใช่หรือไม่ว่ากลุ่มทุนของพรรคก็จะยิ่งไร้อุปสรรคในการกำหนดทิศทางของพรรค ? และใช่หรือไม่ว่าประชาชนในฐานะสมาชิกพรรคการเมืองก็จะไร้บทบาทจับต้องได้เหมือนเดิม ?
ร่างฯของพรรคการใหญ่ 2 พรรคต่างขั้วอำนาจคิดเหมือนกันในหลักการที่ว่ามานี้ เพียงแต่มีรูปแบบการเขียนแก้ไขต่างกันเท่านั้น
เฉพาะร่างของพรรคการเมืองใหญ่ขั้วหนึ่งนั้น เขียนกำกับไว้เลยในการแก้ไขเพิ่มเติมหมวดสิทธิเสรีภาพของประชาชนว่าในการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในกิจกรรมของพรรคการเมืองนั้น...
“...จะต้องไม่มีบทบัญญัติใดที่ทำให้เกิดภาระแก่พรรคการเมืองเกินความจำเป็น”
ขอย้ำคำว่า ‘ภาระ’ ในบทกำกับนี้ครับ !
ถ้าผ่านวาระ 1 ก็ต้องไปพิจารณาปรับแก้กันในวาระที่ 2 ชั้นกรรมาธิการวิสามัญต่อไปว่าจะเอากันอย่างนี้จริงๆ หรือ