ส.ส.พลังธรรมใหม่จี้นายกฯ-รมว.คมนาคมสอบโครงการรถไฟรางคู่ 5 สัญญา เชื่อตัวเลขน่าสงสัย ส่อฮั้วประมูล-ล็อกสเปกทีโออาร์
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงข่าวถึงการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ประกวดราคาโครงการรถไฟรางคู่ 5 สัญญาด้วยวิธี e-Bidding ที่มีการประมูลไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. คือ 1. สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว 2. สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และ 3. สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ในส่วนสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ จะมีการประมูลในวันที่ 25 พ.ค. รวมเป็นจำนวนเงิน 128,3276,800,000 บาท
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า ดูจากผลงานในทีโออาร์ของโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงของ มีเพียงแค่ 5 บริษัทที่สามารถนำผลงานเข้ายื่นเสนอราคาได้ คือ 1. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท อินยิเนียริ่ง (1964) จำกัด
นพ.ระวีกล่าวต่ออีกว่า การเปิดประมูลครั้งนี้มีขั้นตอนตามกฎหมาย มีผู้ซื้อซองประมูล 18-16 ราย ในการประมูลแต่ละสัญญา แต่ที่น่าตั้งข้อสังเกตคือ พอถึงวันยื่นประมูลจะเหลือเพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้น และที่น่าสงสัยคือ ราคาประมูลในแต่ละสัญญาที่มีราคาใกล้เคียงกับราคากลาง เช่น โครงการสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ราคากลางอยู่ที่ 26,599,160,000 บาท แต่ปรากฏว่าผู้ยื่นราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,568,000,000 บาท ต่างกันเพียง 0.12% เท่านั้น ในส่วนสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ราคากลางอยู่ที่ 26,913,780,000 บาท ผู้ยื่นราคาต่ำสุด 26,900,000,000 บาท และสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ราคากลางอยู่ที่ 19,406,310,000 บาท 19,390,000,000 บาท ผู้ยื่นราคาต่ำสุด 16,310,000.00 บาท ต่างกัน 0.08% ถือว่าเป็นการเสนอราคาที่ไร้เทียมทาน
“ผมขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบโครงการนี้โดยเร่งด่วนว่า งทีโออาร์มีการล็อกสเปกและฮั้วประมูลหรือไม่ ถึงจะเป็นการประมูลแบบ e-Bidding แต่มีความโปร่งใสหรือไม่ ถ้าข้อมูลที่ผมแถลงข่าวในวันนี้มีความผิดพลาด ผมก็ขอให้นายศักดิ์สยามออกมาชี้แจงด้วย ทั้งนี้ืระหว่างการสอบหาความโปร่งใส ผมขอให้คณะรัฐมนตรีชะลอการเซ็นสัญญาทั้ง 3 โครงการออกไปก่อน” นพ.ระวีกล่าว
นพ.ระวีกล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าไม่มีความโปร่งใสในการประมูลก็ต้องแก้ไขทีโออาร์ใหม่ให้มีการแข่งขันโดยเสรีมากขึ้น และประมูลใหม่ที่มี
หลักประกันความโปร่งใส
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องหาคนกระทำผิดให้ได้ หากรัฐบาลเพิกเฉยตนก็จะขอนำเรื่องยื่นต่อองค์กรอิสระเพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น