“โบว์” จวกสิ้นคิด! อุ้ม “ชมพู่” ชน “สามกีบ” ถอนหงอก “ศักดิ์ เจียม” เซ่นข่าวลือ “ประสาน” ซัด “มั่ว นำปฏิวัติ”

เกิดอะไรขึ้นกับ “โบว์ ณัฏฐา” อดีตคนกันเองแนวร่วม “3 นิ้ว” ออกตัวแรงสองเรื่องสองรส อุ้ม “ชมพู่ อารยา” ชน ดรามา “สามกีบ” ถอนหงอก “ศักดิ์ เจียม” เซ่นข่าวลือหมิ่นเบื้องสูง “ประสาน” ร่ายกลอน อัด “เพจม็อบ” เอามั่ว มานำปฏิวัติ ซึ้งมั้ย?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 พ.ค. 64) ทวิตเตอร์ Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow ของ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ทวีตข้อความระบุว่า

“การที่ดาราเขาศึกษาข้อมูลอัพเดท ซึ่งไม่ใช่ความลับอะไรสำหรับคนที่เข้าถึงข้อมูลได้ แล้วตัดสินใจฉีดวัคซีนพร้อมอธิบายเหตุผลการให้น้ำหนักปัจจัยต่างๆ ในการเลือกวัคซีนของตัวเอง แต่กลับถูกแปะป้ายว่า ทำเพื่อเอาใจรัฐบาลหรือถึงขั้น “รับงาน” มา .. มันดูสิ้นคิดนะคะ #Sinovac #ชมพู่อารยา #โควิด”

ทั้งนี้ ประเด็นดรามา ของ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เกิดจากการโพสต์ภาพและข้อความรีวิวฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” หลังผ่านมา 1 สัปดาห์ พร้อมให้เหตุผลและข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจไว้อย่างละเอียดบนไอจี

โดยสาเหตุที่ “ชมพู่ อารยา” ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และ มีลูกเล็ก มีผู้สูงอายุที่บ้าน จึงตัดสินใจเข้ารับการฉีดวัคซีนครั้งนี้

ก่อนทิ้งท้าย “ชวนทุกคนไปฉีดวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน พร้อมยืนยันว่าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ไม่มีอาการไข้อ่อนๆ เพลีย หรือ ง่วง ตามที่มีคนให้ข้อมูลมาก่อนหน้านี้”


ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ โพสต์ดังกล่าวของ “ชมพู่” โดนชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันไปมีทั้งชื่นชม และ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ แต่ก็มีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมจับผิดว่า การฉีดวัคซีนนี้ เป็นการถูกจ้างรีวิว จนเกิดกระแสดรามาร้อน ทำให้แฮชแท็ก #ชมพู่อารยา ติดขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง อย่างรวดเร็ว ว่า

“คุณฉีดวัคซีน Sinovac จริงๆ ใช่ไหม อยากให้เอาหลักฐานการฉีดมาให้ดู จะได้รู้ว่าไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้ รบ.#ชมพู่อารยา”, “โชคดีที่อัลฟอลตั้งแต่เรื่องที่อิกนอร์การเมือง พอเรื่องวัคซีนจบเลยจ้า ถ้าการเมืองดีเราจะมีวัคซีนดีๆ ให้เราฉีด มีตัวเลือกดีๆ ให้เราได้เลือก #ชมพู่อารยา”, “ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ ชมพู่ จะออกมาทำอะไรแนวนี้ นางคือพวกอยู่เป็น จำได้ว่า นางเคยให้สัมภาษณ์ว่า ใครจะเป็นรัฐบาลเราก็ต้องทำงานอยู่ดี ใครที่เคยคิดว่านางจะหัวก้าวหน้าบอกเลยคุณคิดผิด นางแค่บ้าแฟชั่นฝรั่ง แต่ความคิดนาง... #ชมพู่อารยา” เป็นต้น

ขณะเดียวกัน จากกรณี นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โพสต์ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในลักษณะหมิ่นเหม่ถึงอาการพระประชวรนั้น

เมื่อคืนวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ว่า

“ถูกหลอกก็ไม่ต้องเสียใจไป สัปดาห์หน้าเจ้ากรมข่าวลือจะหาเรื่องใหม่มาปั่นหัวจนคุณลืมเรื่องเก่าไปเอง เหมือนที่ผ่านๆ มา โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ..แต่สังคมเขาไม่ลืม”

จากนั้น นายสมศักดิ์ เข้าไปโพสต์ในช่องแสดงความคิดเห็นว่า

“ที่ลือกันยังไม่ยืนยันทางใดนี่ครับ” ทำให้ “โบว์ ณัฏฐา” ตอบกลับว่า

“พอเถอะค่ะอาจารย์ ถ้าอยู่ในประเทศ มันไม่ได้ยากที่จะรู้ความจริง หยุดวิธีการแบบนี้ได้แล้ว”

ก่อนหน้านี้ โบว์ ณัฏฐา ได้แชร์ความคิดเห็นของผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า

“ถ้าเอา “ความเกลียด” นำความจริงจนหลับหูหลับตาเชื่อในสิ่งที่เขาหลอกลวง “เราก็จะกลายเป็นเหยื่อ” เหยื่อให้กับมิจฉาชีพ ปั่นยอดรายวัน สติ ..ยุคนี้ต้อง ..ตั้งสติ” (จากไทยโพสต์)


ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จากกรณี “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการสื่อสารของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” โพสต์หวังโจมตี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แต่กลับให้ข้อมูลผิด โดยอ้างว่า พล.อ.อภิรัชต์ เป็นบุตรชาย พล.อ.สุจินดา คราประยูร และมีตำแหน่งเป็นองคมนตรี

โดยข้อเท็จจริง “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ เป็นบุตรชายของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ “บิ๊กจ๊อด” อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และปัจจุบัน “บิ๊กแดง” มีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพระราชวัง ไม่ใช่ “องคมนตรี” แต่อย่างใด แม้จะออกมารับผิด แต่ก็ยังแก้ไขไม่หมด


จากโพสต์ดังกล่าว นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์บทกลอนลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“เอาความมั่ว มานำ การปฏิวัติ

เอาเมาหมัด มามันมือ ไร้หมุดหมาย

เอาความแค้น มาคลุ้มคลั่ง จะเป็นจะตาย

ความเปล่ากลวง เอามาขาย ใครจะซื้อ”

แน่นอน, ที่น่าทำความรู้จักก็คือ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ที่ภาพจำของหลายคน ก็คือ นักเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโทษประหารชีวิต ที่ตรงกับหน้าที่และกิจกรรมเรียกร้องสิทธิฯของเธอ

โบว์ เคยทำงานกับทีวีช่องหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นพิธกรอิสระ และครูสอนภาษาอังกฤษ

ส่วนเป็นนักเคลื่อนไหว เริ่มเมื่อครั้งรัฐประหาร 2557 จากการไปร่วมเล่นดนตรีเปิดหมวก “ตีขิม” ช่วยนักโทษการเมือง ที่ถนนข้าวสาร

ชื่อเสียงของ โบว์ ดังเป็นพลุแตกเมื่อเธอคือแถวหน้ากลุ่มคนอยากเลือกตั้ง “MBK39” ชุมนุมที่สกายวอล์กหน้าห้างมาบุญครอง หรือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “MBK 39” จนถูกตั้ง 2 ข้อหา ร่วมกับแกนนำอีก 9 คน ข้อหาฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมการเมืองเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และกระทำการยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฯลฯ...

พักหลัง “โบว์” มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ลี้ภัยทางการเมือง “ตัวแม่สามกีบ” ถึงขั้นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

เธอให้เหตุผลว่า ปวิน โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ละเมิดตนเองหลายครั้งต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด มีการนำภาพจากอาชญากรรมที่เกิดจากการแอบถ่ายเมื่อกว่าสองปีก่อนมาเผยแพร่ พร้อมข้อความซึ่งเป็นการใส่ความและหมิ่นประมาท...

ไม่เพียงเท่านั้น พักหลัง “โบว์” เริ่มไม่ยอมรับพฤติกรรมหลายอย่างของ “ปวิน” และ “สามกีบ” หรือ “3 นิ้ว” ที่ไม่ยึดหลักการต่อสู้แบบประชาธิปไตยที่แท้จริง เห็นจากโพสต์เฟซบุ๊กของเธอ ก่อนจะเกิดกรณีถอนหงอก “ศักดิ์ เจียม” เพราะใช้ข่าวลือเป็นอาวุธในการต่อสู้ โดยไม่รับผิดชอบ

นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่ “ศาสดา” สามกีบ อย่าง “ศักดิ์ เจียม” และ “ปวิน” ปลุกปั่น ทั้งข่าวลือ ข้อมูลบิดเบือน สาวกที่ตาสว่าง เบิกเนตร เริ่มลดลง เหลือก็แต่พวกที่หลับหูหลับตาเชื่อ และหลายคนเริ่มเห็นทาสแท้แล้วว่า พวกที่มักอ้างตัวเป็น นักประชาธิปไตย แท้จริงล้วนแต่จอมปลอมทั้งนั้น!?