โฆษกรัฐบาลเผยมติ ครม.ขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ออกไปอีก 1 ปี ช่วยเหลือผู้ควบคุมข้อมูลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
วันนี้ (6 พ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... โดยสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานและกิจการที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 พ.ศ. 2563 ออกไป 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เพื่อช่วยเหลือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นหน่วยงานและกิจการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายระลอกตั้งแต่ 2563-ปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ การประกอบธุรกิจของภาคเอกชนและการดำเนินกิจกรรมของประชาชน ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องหยุดให้บริการหรือเลิกการจ้างงาน รวมทั้งความไม่สะดวกต่างๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวันต่างๆ ดังนั้น ตัวแทนกลุ่มสมาคมและภาคธุรกิจต่างๆ จึงได้มีหนังสือถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขอให้เสนอขยายกำหนดเวลาเลื่อนการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกไปก่อน เพราะหากมีการบังคับใช้ในขณะที่หน่วยงานของรัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปยังไม่มีความพร้อม อาจก่อให้เกิดการกระทำผิดตามกฎหมายฉบับนี้ และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม ประกอบกับยังไม่มีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการออกประกาศหรือระเบียบเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวง ดศ.ได้จัดทำกฎหมายลำดับรองดังกล่าวแล้ว โดยได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว