มารดาเพนกวิน ยื่นหนังสือด่วนที่สุด ถึง ผอ.โรงพยาบาลรามาฯ ของดย้ายตัว “เพนกวิน” ไปรักษาตัวที่สถานที่อื่น นอกจากเจ้าตัว-แม่ ยินยอม ห่วงอาการป่วย หวั่นเป็นอันตราย
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำราษฎร เดินทางมาที่บริเวณตึก 5 ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายพริษฐ์ถูกส่งตัวมารักษาโดยการตัดสินใจของกรมราชทัณฑ์ เพื่อยื่นหนังสือด่วนที่สุดถึง รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี
หลังจากทราบข่าวจากทนายความว่า จะถูกส่งตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งที่เหลือเพียงไม่กี่วันจะถึงวันที่ศาลอาญากำหนดนัดไต่สวนคำร้องดังกล่าว พร้อมมีคำสั่งให้เบิกตัวจำเลยที่ 1 และที่ 5 มาในวันไต่สวน กรณียื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราววันที่ 6 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยต่อสายหา ผอ.โรงพยาบาลรามาฯ แล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณากรณีดังกล่าว
นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า นายพริษฐ์ได้ทำการอดอาหารประท้วงเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 50 วัน ทำให้ร่างกายมีความเจ็บปวด และอ่อนแอ มีอาการถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ประกอบกับการมีอาการปัจจุบันทันด่วน เช่น การหน้ามืด วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม และมีระบบเส้นเลือดมีการอักเสบจนทำให้ไม่สามารถให้การรักษาโดยการฉีดน้ำเกลือได้ ซึ่งส่งผลให้มีกระทบกระเทือนถึงชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ทันท่วงที่โดยบุคลากรที่เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การแพทย์ที่ครบถ้วน
นางสุรีย์รัตน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างกว้างขวางในเรือนจำ ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงอันตรายอย่างสูงกับนายพริษฐ์ เพราะนายพริษฐ์มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และรวมกับอาการอ่อนแอภูมิคุ้มกันน้อยที่เกิดจากการอดอาหารเป็นระยะเวลานาน หากส่งตัวกลับไปจะเป็นการเพิ่มอัตราความเสี่ยงชีวิตสูงให้กับนายพริษฐ์ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของลูกชาย มีความประสงค์ที่จะขอความอนุเคราะห์จากทางโรงพยาบาลได้โปรดงดการย้ายตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ไปยังสถานที่อื่นๆ นอกจากได้รับความยินยอมจากนายพริษฐ์ และตนเอง ขณะนี้ยังไม่ได้มีการให้เข้าเยี่ยมนายพริษฐ์ก็จริง แต่ทางแม่เข้าใจกฎระเบียบและก็ยืนรออยู่ได้ข้างนอก หากส่งนายพริษฐ์กลับไปอันตราย ตนกังวลหลังนำตัวมาที่โรงพยาบาลดังกล่าวตั้งแต่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนหากให้อยู่รักษาตัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ยินดี เน้นย้ำอยากให้ดูนายพริษฐ์ด้วย เพราะเกิดที่นี่เป็นลูกของโรงพยาบาลรามาฯ
“อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการชุมนุมหน้าศาลอาญาของกลุ่ม “กลุ่มรีเด็ม” REDEM เป็นจุดที่ทำให้งดการประกันตัวนายพริษฐ์นั้น กลุ่มดังกล่าวตนไม่ทราบ และมีความกังวลใจว่าเป็นกลุ่มมาสร้างสถานการณ์หรือไม่ แต่กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดส่วนบุคคลที่ไม่สามารถห้ามได้ ก็เป็นไปได้ เพราะเท่าที่รู้จักกลุ่มราษฎรเขาไม่มีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว ขอยืนยันกับคณะตุลาการ ว่า ประเด็นการใช้ความรุนแรงไม่เกี่ยวกับเรา ยืนยันว่า จะไม่ใช่ความรุนแรงและเอาชีวิตพ่อแม่คนอื่นไปเสี่ยง อย่าเอาเรื่องดังกล่าวมาใช้เป็นประเด็นไม่ให้มีการประกันตัว เนื่องจากการประกันตัวเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับใครทำอะไรแล้วมาเป็นกับเขา ทั้งนี้ ช่วงเย็นจะไปร่วมชุมนุมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสิทธิเก่าต่อไป” นางสุรีรัตน์กล่าว