โฆษกพรรคกล้าวอนรัฐบาลรีบแก้ปัญหา “ตายเพราะไม่มีเตียง” แนะเร่งนำส่งผู้ป่วยไปรพ.จังหวัดใกล้เคียง แทนการรอเตียงจนอาการวิกฤตลุกลามสู่คนในครอบครัว
วันนี้ (4 พ.ค.) นายธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีโรงพยาบาลในพื้นที่สีแดงเข้มมีเตียงไม่พอที่จะรองรับผู้ป่วยโควิด ว่า กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ได้ร่วมประสานหาเตียงให้แก่ผู้ป่วย ในโครงการอาสาของพรรคกล้า ทำให้ได้เห็นปัญหาสำคัญที่เป็นสาเหตุให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็คือ "เตียงไม่พอ" โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมดที่ติดต่อมายังพรรคในระยะแรกนั้นไม่ได้มีอาการหนัก ซึ่งจะขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานของรัฐก่อนแล้ว แต่ไม่ได้เตียง จึงประสานขอความช่วยเหลือมายังพรรคอีกทางหนึ่ง และถ้าไม่ใช่เคสที่มีอาการวิกฤตหรือโคม่า การที่จะได้รับตัวไปยังโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามในช่วง 1-3 วันแรกหลังจากที่พบเชื้อนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย บางรายต้องรอนาน 4-7 วัน โดยที่มีอาการก่อนตรวจมาแล้วระยะหนึ่ง
“การที่ผู้ป่วยไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์ และรับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของการติดเชื้อ อาจส่งผลให้เชื้อลุกลามลงปอด ไอหนักจนแทบหายใจไม่ได้ มีเคสหนึ่งไอหนักมากในช่วงตี 1 พอนำส่งไปถึงโรงพยาบาลแล้วได้รับแจ้งว่าไม่มีเตียง จึงจ่ายยาแก้ไอและให้กลับบ้านตอนตี 4 บางรายท้องแก่ 8 เดือนกว่า ผู้ป่วยไอจนท้องแข็ง เจ็บท้องไปหมด แต่ก็ยังไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากต้องรอคิวเตียง และไม่ทราบว่าจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ ส่วน Hospitel บางแห่งก็แทบไม่มีแพทย์เข้าไปตรวจ จึงมีค่าเท่ากันกับนอนรออยู่ที่บ้าน”
นายธันวากล่าวย้ำว่า ทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับจากการประสานงาน ซึ่งไม่ได้มีเจตนาตำหนิบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น เพียงอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องเตียงเป็นการเร่งด่วน หากเตียงมีเพียงพอตามที่รัฐบาลยืนยันจริง แต่อยู่ในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รัฐก็ควรนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียงที่มีความพร้อม ผู้ป่วยจะได้เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอหลายวันจนอาการวิกฤต และต้องเสียชีวิตลงเหมือนหลายๆ กรณีที่ผ่านมา ที่สำคัญจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อแก่บุคคลในครอบครัว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของการระบาดระลอกใหม่ หากไม่เร่งแยกผู้ป่วยออกไปตั้งแต่แรกก็จะติดเชื้อกันทั้งบ้าน เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก