“ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ” ทีมนโยบายไทยสร้างไทย เรียกร้องกระทรวงศึกษาฯ เห็นใจเด็ก เลื่อน “เปิดเทอม” แล้ว ต้องเลื่อน “ปิดเทอม-สอบ” ด้วย หวั่นถ่างเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่ม แนะตรวจสอบแนวทางเรียนออนไลน์ว่า “โรงเรียน-นักเรียน” พร้อมหรือไม่
วันนี้ (29 เม.ย.64) น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ คณะกรรมการนโยบาย พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเลื่อนกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 17 พ.ค.64 ไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย.64 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดระลอกใหม่ว่า นอกจากจะเลื่อนการเปิดเทอมแล้ว กระทรวงศึกษาธิการควรพิจารณาเลื่อนวันปิดภาคเรียน และกำหนดการสอบต่างๆ แทนที่จะให้เรียนชดเชยวันเสาร์-อาทิตย์ 11 วัน แทน จะทำให้เด็กเรียนไม่ทัน และกระทบการเตรียมตัวสอบ ตามที่เด็กเพิ่งได้ออกมาเรียกร้องครั้งนี้และตลอด 3 ครั้งที่เคยสั่งเลื่อนเปิดเทอมมา
“นโยบายการเลื่อนเปิดเทอม อาจจะเป็นกาาเพิ่มความเหลื่อมล้ำให้เด็กที่ขาดกำลังทรัพย์ในการเรียนพิเศษเพื่อติวข้อสอบมากขึ้นด้วย” น.ส.ธิดารัตน์ กล่าว
น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลปี 2563 ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) พบว่าแม้รัฐบาลจะมีโครงการให้เงินอุดหนุนนักเรียนยากจน แต่ก็เป็นจำนวนเพียง 0.5% ของงบประมาณด้านการศึกษา ดังนั้น นักเรียนยากจนได้รับเงินอุดหนุนเฉลี่ย 5 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น และมีอีกกว่า 4 ล้านคนที่ไม่ได้รับโอกาสนี้เลย กลุ่มคนยากจนที่มีรายได้ต่ำสุด 20% ของประเทศ มีโอกาสศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาโดยเฉลี่ยเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวต่อว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพิ่งแจ้งว่าจะมีแนวปฏิบัติการเรียนการสอน 5 รูปแบบ ได้แก่ การเรียนผ่านระบบ online, on-site, on air, on hand และ on demand โดยได้แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สำรวจอุปกรณ์การเรียนการสอนของนักเรียนและโรงเรียนว่ามีความเหมาะสมที่จะเรียนแบบไหนนั้น ถือเป็นนโยบายที่ดี แต่ควรชี้แจ้งรายละเอียดว่ามีมาตรการอะไรที่ทำให้มั่นใจได้ว่าการเรียนการสอนทั้ง 5 รูปแบบ จะมีคุณภาพและได้มาตรฐานเดียวกัน
“อยากให้เห็นใจเด็กบ้าง ไม่ควรปัดความรับผิดชอบให้เด็กนักเรียน ทุกคนต่างคาดหวังให้รัฐมนตรีคนใหม่จะบริหารกระทรวงศึกษาธิการได้ดีกว่าคนเดิม” น.ส.ธิดารัตน์ กล่าว.