“ประยุทธ์” ย้ำเร่งจัดหาวัคซีนทุกช่องทาง มอบกระทรวงการต่างประเทศประสานระดับรัฐบาล ขณะที่ภาคธุรกิจเอกชนประสานบริษัทผู้ผลิต เผยติดต่อบางประเทศขอความร่วมมือ ยืนยันทุกคนทำงานเต็มขีดความสามารถ
วันนี้ (27 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อย่างที่ทราบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา ต้องขอชมเชยมีการจัดระบบการรองรับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดีมีมาตรฐาน วันนี้ตนได้ย้ำเราอยู่ 3 สีด้วยกัน คือ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งสีเขียวคือผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel ส่วนสีเหลืองผู้ป่วยอาการปานกลางจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทั่วไปซึ่งจำเป็นต้องจัดหาเตียงว่าง และสีแดงผู้ป่วยอาการรุนแรงต้องได้รับการรับตัวและส่งไปโรงพยาบาลเฉพาะทางอย่างเร็วที่สุด วันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานอื่นๆ ได้มีการบูรณาการระบบข้อมูลในการให้บริการทางการแพทย์ผ่านสายด่วนต่างๆ ได้อาสาสมัครมาช่วยกันรับสายเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้ได้สั่งการให้จัดเตรียมสถานที่คัดกรองให้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่อยากให้ไปแน่นแออัดอยู่ตามโรงพยาบาล
นายกฯ กล่าวอีกว่า และอีกส่วนคือเรื่องการให้บริการฉีดวัคซีนที่ได้รับมาเพิ่มเติมในช่วงนี้จากการทำงานเร่งรัดของกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล ซึ่งเราได้มีการติดต่อระหว่างรัฐบาลต่างประเทศ และขณะเดียวกันก็รับการติดต่อในการขอซื้อวัคซีนจากบริษัทด้วย ดังนั้น เมื่อบริษัทสามารถจัดส่งได้ตามที่เราต้องการ ก็ต้องไปขออนุญาตรัฐบาลประเทศตนเอง เพราะเป็นการควบคุมของรัฐบาลแต่ละประเทศในการนำเข้าหรือส่งออกเช่นเดียวกัน นี่คือมาตรฐานหลักสำคัญ ขอบคุณภาคเอกชน ภาคธุรกิจต่างๆ บรรดาหมอต่างๆ ที่อยากมีส่วนร่วมในการทำงาน ตนได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขได้ไปดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ให้เกิดความชัดเจน เราไม่ได้ปิดกั้นใคร แต่ต้องหาช่องทางที่สามารถดำเนินการร่วมกันได้ ในหลักการสำคัญคือรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างในเรื่องผลกระทบข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ประเด็นการฉีดวัคซีนก็เช่นเดียวกัน วันนี้ตนพยายามติดต่อโดยให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อกับรัฐบาล ฝ่ายภาคธุรกิจเอกชนก็ติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตทั้งหมดเป็นมาตรการสำคัญ ถ้าทำได้ก็จะได้วัคซีนเพิ่มขึ้น ขณะที่วันนี้เราก็ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสไปแล้วเกือบ 2 แสนคน ที่เหลือก็ฉีดไปมากกว่า 1 ล้านโดส และจะรีบดำเนินการต่อไปให้เร็วที่สุดตามปริมาณวัคซีนที่มีอยู่ และถ้าได้มากขึ้นจะมีการกระจายวัคซีนของรัฐไปยังสถานพยาบาลเอกชนให้ช่วยฉีดด้วย เราตั้งเป้าเรื่องนี้ว่าจะหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดคนไทย 50 ล้านคนภายในปี 2564 และขึ้นอยู่กับวัคซีนที่เราติดต่อเพิ่มเติมจะได้มาอย่างไร ทั้งนี้ ในวันที่ 28 เม.ย.จะรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมไทย สภาหอการค้าไทย และอื่นๆ เป็นต้น
“ไม่ใช่เรานิ่งนอนใจ เราทำงานเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ปัญหาสำคัญประเทศของเขา รัฐของเขา บริษัทของเขา วันนี้วัคซีนก็เป็นสินค้าที่ถูกแย่งกันในทุกภูมิภาค การติดต่อบางประเทศที่เขามีเหลืออยู่จะทำอย่างไร เราจะขอความร่วมมือได้หรือไม่ ก็ต้องประสานรัฐบาล ผมคิดว่าทุกคนทำงานเต็มขีดความสามารถแล้ว บูรณาการทางการแพทย์ทั้งหมดทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ทำงานที่ด่านหน้าทั้งแพทย์ พยาบาล ภาครัฐ เอกชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เสียสละทำงานหนักเพื่อพวกเราในเวลานี้ ผมก็ได้สั่งการให้เน้นย้ำไปแล้ว ให้ติดตามในเรื่องเหล่านี้ และกำชับให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งผมได้มีการหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว