“รสนา” แฉแผนกลุ่มทุนยาฮุบฟ้าทะลายโจร โพสต์ข้อมูลมั่ว อ้างสารสกัดฟ้าทะลายโจรแบบที่ตัวเองทำขายปลอดภัยกว่าแบบผง เพราะสกัดเอาสาร AP3 ที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงออกแล้ว ทั้งที่ไม่มีผลวิจัยรองรับ และเข้าข่ายผิดกฎหมายโฆษณา แนะควรมีการวิจัยอย่างจริงจังเพื่อหาปริมาณการใช้ที่เหมาะสม ให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้อย่างมีหลักการและประหยัด
วันนี้ (22 เม.ย.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ รสนา โตสิตระกูล ในหัวข้อ “รสนา” เตือนระวัง “เตะหมูเข้าปากหมา” แฉแผนฮุบฟ้าทะลายโจรของกลุ่มทุนยา !? มีรายละเอียดว่า ฟ้าทะลายโจรกำลังกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพราะมีการโต้แย้งกันจนฟ้าทะลายโจรกลายเป็นประเด็นที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักของสังคมไทยในขณะนี้ มีข้อถกเถียงกันในประเด็นฟ้าทะลายโจรป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้หรือไม่ และสารสกัดฟ้าทะลายโจร ดีกว่า ผงรวมฟ้าทะลายโจร จริงหรือไม่ และฟ้าทะลายโจรมีอันตรายแค่ไหน กินผงฟ้าทะลายโจรแล้วจะกล้ามเนื้ออ่อนแรงไหม ต้องกินเฉพาะสารสกัดฟ้าทะลายโจรจึงจะปลอดภัยกว่า ได้สารสำคัญมากกว่าจริงหรือไม่ เนื่องจากมีพ่อค้าขายสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่ขาดจริยธรรม โพสข้อความส่งต่อแพร่หลายในโซเชียลมีเดียอ้างข้อมูลมั่วๆ ว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรได้สกัดสาร AP3 ในผงฟ้าทะลายโจรออกแล้วโดยอ้างว่าเป็นสารที่มีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยไม่มีงานวิจัยรองรับ เพื่อโฆษณาสินค้าแบรนด์ของตน ซึ่งน่าจะผิดกฎหมายโฆษณาของ อย. ด้วยซ้ำ แต่ อย.ยังไม่ทำอะไร ทั้งที่ความผิดน่าจะสำเร็จแล้ว ใช่หรือไม่
ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรไทยที่คนไทยรู้จักกันมานาน ไม่น้อยกว่าครึ่งศตวรรษและใช้กันอย่างแพร่หลายมานานก่อนที่จะมาใช้ช่วยคนป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ ท่ามกลางการถกเถียงว่าใช้ได้หรือไม่ของนักวิชาการด้านสุขภาพ ทั้งหมอ และเภสัชกร แต่คนที่ไม่มีตัวช่วยอื่นในวิกฤตโควิด-19 ก็ใช้กันโดยไม่สนใจข้อถกเถียงเหล่านั้น ยาที่ใช้ก็เป็นฟ้าทะลายโจรแบบผงธรรมดาๆ นี่เอง และมีข่าวปรากฏในโซเชียลมีเดียเป็นระยะๆ ว่า ดาราป่วยเป็นโควิด กินฟ้าทะลายโจรหาย คนไทยในนอร์เวย์ เยอรมัน คูเวต ที่ติดเชื้อและต้องกักตัวในบ้าน ได้อาศัยฟ้าทะลายโจรช่วยให้หายได้เช่นกัน แม้แต่ท่านเอกอัครราชทูตไทยในอังกฤษ ยังชื่นชมฟ้าทะลายโจรว่าช่วยคนไทยในอังกฤษรอดจากโควิด
มีงานทดลองของนักวิจัยไทยที่ตีพิมพ์ระดับนานาชาติ โดยใช้สารสกัดรวมจากผงฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata Extract) และสารเดี่ยวของแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) กับเซลล์เยื่อหุ้มปอดของมนุษย์ที่มีเชื้อโควิด-19 พบว่าสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ได้ และยังมีการทดลองกับเซลล์ตัวแทนของอวัยวะสำคัญต่างๆ พบว่า ฟ้าทะลายโจรปลอดภัยต่ออวัยวะสำคัญๆ ได้แก่ สมอง ปอด ตับ ไต ลำไส้เล็ก การวิจัยในหลอดทดลองนี้ จึงเป็นการยืนยันการใช้ฟ้าทะลายโจรของคนไทยที่เคยใช้รักษาโรคหวัดจากไวรัสหลายชนิด รวมถึงไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่
นอกจากนี้ การทดลองของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกก็พบเช่นกันว่าสามารถฆ่าและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ในเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ และการพบที่สำคัญคือ พบว่า “สารรวมจากผงฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 ดีกว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ตัวเดียว”
การที่ฟ้าทะลายโจรไม่ได้รับความสนใจในการวิจัยต่อเนื่องไปสู่การทดลองในสัตว์ทดลอง จนถึงในคนอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานการวิจัย เพื่อหาปริมาณจำนวนยาที่ได้ประสิทธิภาพ อาจเป็นเพราะสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรเป็นสารที่ใครๆ ก็รู้จัก ไม่ใช่การค้นพบใหม่ที่จะจดสิทธิบัตรผูกขาดใช่หรือไม่ จึงไม่มีใครสนใจการวิจัยเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้แก่มนุษยชาติ หรือให้กับคนไทยโดยไม่ต้องผูกขาด ?!
ยิ่งกว่านั้นท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ควรจะร่วมด้วยช่วยกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ แต่ก็ยังมีความพยายามที่จะเบี่ยงเบนการใช้ฟ้าทะลายโจรโดยอ้างว่ากินฟ้าทะลายโจรในรูปของสารสกัดดีกว่าในรูปแบบผงฟ้าทะลายโจร เพราะมีสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณที่แน่นอนกว่าผงยา ทั้งที่การกำหนดปริมาณสารสำคัญ 180 มก./วัน ไม่ได้มาจากการทดลองจนรู้ปริมาณแน่ชัด ไม่ได้อิงจากการใช้ในขนาดที่มีการใช้มาก่อน และคนป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงนี้ที่ออกมาบอกว่าหายเพราะกินผงฟ้าทะลายโจรก็เป็นยาจากผงฟ้าทะลายโจรที่ขึ้นทะเบียน อย. แบบยาแผนไทยที่ขายในยี่ห้อต่างๆ ซึ่งก็ทำให้คนป่วยหายดี ไม่ใช่หายจากสารสกัดฟ้าทะลายโจรตามที่มีการแนะนำขึ้นมาในระยะหลังนี้แต่อย่างไร
ดิฉันอยากเห็นการวิจัยที่สนับสนุนการพึ่งตัวเองของประชาชนโดยมีการทดลองจริงๆ จังๆ ว่า ปริมาณสารสำคัญในฟ้าทะลายโจรควรควบคุมให้มีปริมาณต่ำสุดเท่าไหร่ที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการวัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน และพัฒนาเครื่องมือง่ายๆ ที่ใช้วัดปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ในวัตถุดิบฟ้าทะลายโจรที่เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ประชาชนได้ใช้ เมื่อวัตถุดิบมีคุณภาพ ผงฟ้าทะลายโจรก็จะมีคุณภาพ และราคาถูกกว่า เป็นการใช้สมุนไพรอย่างมีหลักการความคุ้มค่าและประหยัด ปฏิบัติได้โดยประชาชน ทั้งไม่ทำให้สังคมตกอยู่ในมายาคติว่า “มากเท่ากับดี” เพราะการทำสารสกัดฟ้าทะลายโจรมีต้นทุนค่าใช้จ่ายมากมาย ทำให้ยามีราคาแพงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ต้องมีทางเลือกในการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพในราคาที่คนรายได้น้อยจ่ายไหว ยาในรูปแบบสารสกัด นอกจากทำให้ราคาแพงแล้ว อาจยังมีความไม่คงตัวอีกด้วย ทั้งยังต้องกินสารสำคัญในขนาดสูงโดยไม่มีที่มาที่ไป จึงควรพัฒนาฟ้าทะลายโจรในรูปแบบผงที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ส่วนใครสามารถใช้ฟ้าทะลายโจรในรูปแบบสารสกัดราคาแพงก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องไม่ทำลายรูปแบบการใช้ฟ้าทะลายโจรที่ประชาชนจะเข้าถึงและพึ่งตัวเองได้
การใช้ฟ้าทะลายโจรใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป หรือ รพ.สนามแบบ R2R ซึ่งเป็นการพัฒนาจากงานประจำสู่งานวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทย ฯ การกำหนดปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก./วัน จะทำให้การใช้ผงฟ้าทะลายโจรไม่เข้าเกณฑ์ ซึ่งอาจทำลายกระบวนการใช้ผงฟ้าทะลายโจรราคาย่อมเยาของชาวบ้าน และอาจกลายเป็นการเตะหมูเข้าปากกลุ่มทุนยายักษ์ใหญ่หรือไม่ ทั้งที่ฟ้าทะลายโจรเป็นสมบัติของชาวบ้าน