นายกฯ เผยเจ็บทุกครั้งออกมาตรการคุมโควิดกระทบปชช. ลั่นประเทศไทยต้องชนะ ชี้ยามคับขันต้องมีคนกล้า ไม่พล่ามบิดเบือนไร้สาระ ลั่นไม่เคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์ ฟุ้งส.ส.ที่เคยดูถูกวัคซีนเรื่องหลอกก็มาฉีด เตือนชุมนุมเป็นสิทธิ์ก็ต้องระวังไม่ได้ขู่
วันนี้ (16 เม.ย.)เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 5/2564 ว่า แม้เราจะผ่านช่วงวันเวลาสงกรานต์มาแล้วจนกระทั่งวันนี้ ระหว่างนั้นเราไม่เคยหยุดทำงาน ทั้งตน ข้าราชการ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างกันไป และวันนี้จะเห็นว่าสถานการณ์มีการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น แต่ตนก็อยากจะพูดกับทุกคนว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนมากเกินไป เพราะเราพยายามจะแก้ปัญหาด้วยหลักการ ด้วยวิธีการของเรา ซึ่งเราเคยได้รับผลดีมาแล้วจากระยะที่หนึ่ง ที่เคยมีการแพร่ระบาดในประเทศไทย และช่วงนั้นมีการล็อกดาวน์ประเทศ ซึ่งมีเหตุผลแต่ก็มีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศ แต่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ในช่วงนั้นเพื่อสกัดกั้น เพื่อศึกษาที่มาที่ไปของโรคโควิด-19 จนได้ข้อยุติการสอบสวนโรคว่าสถานการณ์แพร่ระบาดมาจากที่ใด และต้องหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งก็ทำมาได้ดีในระดับต้นของโลก
นายกฯ กล่าวว่า ในห้วงการแพร่ระบาดระยะที่สองที่จังหวัดสมุทรสาครตัวเลขเพิ่มมากขึ้น เป็นการแพร่ระบาดในพื้นที่ค้าขาย วันนี้การแพร่ระบาดมาสู่ระยะที่สาม สาเหตุมาจากสถานที่ท่องเที่ยวและบริการ จะเห็นได้ว่าสถานการณ์พร้อมที่จะแพร่ระบาดได้ในทุกพื้นที่ ทั้งนี้จากการประชุมของคณะทำงานตลอด 7 วันที่ผ่านมา ตนได้กำกับดูแล วางแผน ให้แนวทางในการปฏิบัติทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม สกัดกั้นการแพร่ระบาด รวมถึงการจัดหาวัคซีน และฉีดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้วัคซีนที่รับมาจำนวนหนึ่งที่ไม่มากนักได้ฉีดให้คนไปจำนวน 5-6 แสนคน ซึ่งเราฉีดเท่าที่วัคซีนเรามีอยู่ และวันนี้เราได้วัคซีนเพิ่มเติมมาอีกจำนวนหนึ่ง และในระยะต่อไปก็จะได้รับวัคซีนจำนวนมากขึ้น โดยเราได้มีการวางแผนการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงคน 60 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ แม้เราจะมีวัคซีนเพียง2ชนิดแต่ตนก็ให้มีการตั้งคณะทำงาน ซึ่งเป็นบุคคลที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์จากภายนอกมาหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นในยี่ห้ออื่นอีกด้วย และเราก็มีความก้าวหน้าเรื่องเหล่านี้ตามลำดับ โดยหารือกับหลายประเทศ
นายกฯ กล่าวอีกว่า ประเด็นของเราคือเนื่องจากวัคซีนตอนนี้เป็นวัคซีนที่ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ฉะนั้นการขายวัคซีนจะขายให้กับรัฐต่อรัฐเท่านั้น ดังนั้นการที่รัฐจะซื้อหรือสั่งเข้ามาขายต่อเราทำไม่ได้ นี่คือหลักการทางข้อกฎหมาย แต่สิ่งที่เราพยายามคือให้องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อได้ เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนรับไป หรือแม้กระทั่งใครก็ตามที่ต้องการและมีขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน จึงขอฝากไปถึงบรรดาหมอ พยาบาล ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เมื่อเราได้รับวัคซีนจำนวนมากขึ้นมาอยากให้มารวมพลัง โดยสมัครในแต่ละจังหวัด มาฝึกความพร้อมเพื่อที่จะได้ช่วยกันฉีดวัคซีนให้มากขึ้นในพื้นที่ทุกจังหวัด
“มาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาทุกครั้ง ผมเจ็บปวด ผมไม่สบายใจ และเป็นเรื่องที่หนักใจพอสมควร เพราะรู้ว่ามาตรการต่างๆมันมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมห่วงใยผู้มีรายได้น้อยที่อาจจะเดือดร้อนมาก เพราะเป็นแหล่งทำมาหากิน เป็นอาชีพของท่าน ฉะนั้นหลายๆอย่างผมไม่สามารถที่จะตัดสินไปทางหนึ่งทางใดได้ โดยที่ไม่คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ ผมฟังทุกคน ทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตามผมเป็นผู้รับผิดชอบก็พยายามจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เมื่อมีการแพร่ระบาดเชื้อโควิดอย่างรวดเร็ว เราจำเป็นจะต้องจัดการอย่างรวดเร็วด้วย ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยเฉพาะการเข้มงวดตั้งแต่ต้นจะทำให้ลดความเสียหายระยะสามลงไปได้ เช่นเดียวกับตอนสมุทรสาคร ครั้งนี้ผมคาดหวังอย่างนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องร่วมมือกัน เพราะเป็นสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญไปด้วยกัน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในหลายประเทศไม่ต้องการให้มีการล็อกดาวน์หรือเข้มงวดอะไรเลย แม้กระทั่งการบังคับใช้หน้ากาก และวันนี้เขาก็เดือดร้อนมากกว่าเรา จะเห็นได้ว่าสถิติการติดเชื้อในแต่ละวันมีจำนวนมาก ไม่ใช่หลักพันแต่เป็นหมื่นคน เสียชีวิตเป็นพันเป็นหมื่นคนเช่นเดียวกัน วันนี้ติดเชื้อทั่วโลกไปกว่า 133 ล้านคนแล้ว และประเทศในอาเซียนบางประเทศมีการติดเชื้อวันละหลายหมื่นคน บางประเทศตายวันละหมื่น ของเราอยู่ในขั้นตอนที่ถือว่ามากสำหรับเรา ในความรู้สึกของเรา ตนไม่อยากให้เกิดการเปรียบเทียบ ว่าตราบใดที่มีการระบาดอยู่ก็ยังไม่ปลอดภัย ซึ่งตนก็ไม่ได้บอกว่าปลอดภัย การฉีดวัคซีนเป็นการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับคนที่ฉีด ไม่ได้หมายความว่าฉีดแล้วจะไม่เป็น แต่อย่างน้อยก็มีภูมิต้านทานที่จะไม่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และเมื่อไม่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นก็ไม่สามารถที่จะไปแพร่ระบาดเชื้อให้กับผู้อื่น นั่นคือความมุ่งหมายในการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ติดเชื้อแล้วก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการรักษาพยาบาล และส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตจะมีโรคร้ายแรง หรือเป็นผู้สูงวัย ฉะนั่นขอยืนยันว่าเรายังรักษาได้อยู่ อันนี้ขอให้เข้าใจด้วย ตนไม่ต้องการให้มีใครตายสักคนเดียว ตายคนตนก็เสียใจ และคนที่เสียใจมากที่สุดคือครอบครัวของท่าน
“ผมเป็นคนรักครอบครัว ผมรู้ว่าท่านรักครอบครัวอย่างไร และวันนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องรักคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะยากดีมีจน จะรักผมหรือไม่รักผม ผมก็ต้องรักเขาอย่างที่ผมเคยพูดเสมอ จะเห็นได้ว่าวันนี้รัฐบาลเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับบรรดานักการเมืองต่างๆที่จำเป็นต้องไปพบปะกับประชาชน ต้องขอความร่วมมือด้วย แต่ถ้าใครไม่อยากฉีดก็บอกมาว่ายังไม่พร้อมจะฉีด ไม่สมัครใจก็ประกาศออกมาเลย ส่วนที่สมัครใจก็ถือว่าท่านได้ระมัดระวังตัวเอง ไม่ไปแพร่เชื้อสู่คนอื่น ผมมีประสบการณ์มามากพอสมควรจากระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง จนมาระยะที่สามของการแพร่ระบาดนี้ ผมได้นำแนวทางทั้งหมดมาประมวล ประยุกต์และไม่ได้คิดเอง ต้องฟังจากบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ซึ่งมีการประชุมร่วมกันมาตามลำดับทุกวัน ไม่ได้หยุดพัก และมีการรายงานมาให้ผมทราบ รวมถึงขออนุมัติหลักการต่างๆ จนกระทั่งนำมาสู่การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ แน่นอนพวกเราเจ็บปวดมาด้วยกัน สถานการณ์ของเราอาจจะไม่เท่ากับประเทศอื่นๆ นั่นเป็นเพราะเรามีวินัย แต่เมื่อไรก็ตามที่เราหย่อนวินัยหรือประพฤติปฏิบัติตัวสนุกสนาน สะดวกสบายจนเกินไป นั่นแหละเราก้าวสู่ความประมาท ผมตำหนิใครไม่ได้ เพราะทุกคนคือคนไทย แต่ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันต่อสู่วิกฤตมันก็จะคลี่คลายไปได้เร็ว”นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ก็เห็นอยู่แล้วว่าถ้าการ์ดตกอะไรจะเกิดขึ้น แต่ก็รู้สึกดีใจที่เห็นคน 90 กว่าเปอร์เซ็นใส่หน้ากาก แต่อีกหลายอย่างตนก็ยังกังวลอยู่คือเรื่องการเว้นระยะห่าง ไม่ว่าจะในครอบครัว สังคม ชุมชน หลายคนยังไม่ปฏิบัติตามกติกา ยังมีการชุมนุมต่อต้านนั่นต่อต้านนี่ นั่นคืออันตรายทั้งสิ้น ตนไม่ได้พูดถึงเรื่องผิดถูกกฎหมาย แต่พูดถึงความอันตรายของท่าน อันตรายที่จะไปสู่ครอบครัวและสังคมของท่าน แต่อย่างไรก็ตามตนต้องดูแลพวกท่านทุกคน การ์ดตกไม่ได้ เพราะมันจะเกิดอะไรตามขึ้นมาทันที ฉะนั้นทุกคนต้องรักษาวินัย เว้นระยะห่าง ใส่แมส ล้างมือ 3 ข้อจะเป็นอาวุธสำคัญที่สุดสำหรับเรา แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ต้องเว้นระยะห่างใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร ที่บ้านตนก็ปฏิบัติตัวแบบนี้ ในครอบครัวนั่งกินข้าวห่างกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราลดภาวะความเสี่ยงได้มาก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ท่านอาจจะมองว่าทำไมช่วงสงกรานต์ตนจึงให้มีการเดินทาง เพราะตนต้องมองคนอีกระดับหนึ่งที่เป็นพี่น้องประชาชนที่อยากกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ ซึ่งตนก็ได้เตือนแล้วต้องปฏิบัติตามมาตรการขั้นต้น หลายคนบอกให้ปิดไปเลย เพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีรายได้เพียงพอที่จะอยู่กับบ้าน แต่บางคนเขาไม่มีเงินเพียงพอ ถ้าจะบังคับให้ทุกคนไม่ต้องทำอะไร อยู่ที่บ้าน เขาก็เดือดร้อน นั่นคือสิ่งที่ตนจะต้องนำมาพิจารณาด้วย โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก แต่ถ้าทั้งหมดสามารถประกอบกิจการ ธุรกิจได้ โดยมีมาตรการ สำคัญที่ตนได้กล่าวไปจะสามารถลดการแพร่เชื้อไปได้เยอะ และตนทราบดีว่าทุกคนเสียสละกันมามาก ซึ่งจากสถานการณ์ทั่วโลกเราก็ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ วันนี้มีการผลิตวัคซีนมาหลายยี่ห้อ แต่ต้องรอผลการทดสอบทดลอง การสั่งซื้อจะต้องซื้อขายผ่านรัฐบาล ยังไม่ใช่สินค้าเชิงพาณิชย์ เพราะถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินอยู่ตรงนี้คือประเด็นสำคัญ ฉะนั้นขอให้ทุกคนได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างระมัดระวัง การที่ตนห้ามและออกกติกาไป ถ้าไม่ปฏิบัติตนก็ไม่สามารถติดตามพวกท่านได้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ อสม. ฝ่ายความมั่นคง ตรงนี้คือสิ่งที่จะทำให้เราปลอดภัย สิ่งใดที่เป็นความเสี่ยงอย่าไปทำ อย่าประพฤติตนอยู่บนความประมาท เพราะจะเป็นสถานการณ์ที่รุกรามบานปลายมากยิ่งขึ้น ขอให้ทุกคนภูมิใจสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ระยะหนึ่ง สอง จนมาถึงระยะนี้ คือความพิเศษของคนไทย เมื่อใดก็ตามที่ขอความร่วมมือ ทุกคนให้ความร่วมมือก็โอเค คนไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วในหลายมิติ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องโควิด เมื่อใดก็ตามที่คนไทยรวมพลังเป็นหนึ่ง ทั้งรักตัวเอง คนอื่น และครอบครัว รักสังคม รักประเทศชาติ ทุกอย่างแก้ได้หมด
“วันนี้ผม เกี่ยวกับเรื่องการสร้างความเข้าใจในสื่อโซเชียลอะไรต่างๆ ผมยอมรับว่าที่คิดมาอะไรมาก็เป็นเหตุผลของท่าน แต่อย่าลืมว่าผมคิดเองไม่ได้ ผมคิดได้เฉพาะจากสิ่งที่เสนอมาและผมจะตัดสินใจอย่างไร ผมยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ขอฝากเพิ่มเติมจากสิ่งที่ทำดีอยู่แล้วให้ทำดียิ่งขึ้น พยายามเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลแจ้งข้อมูลออกมา สิ่งที่เป็นประโยชน์ผมก็นำมาขับเคลื่อน ไม่ใช่ผมไม่ฟังใครเลย ผมมีคำสามสี่ประโยคด้วยกัน ประเทศไทยเราต้องชนะ นี่คือธีมที่เราต้องใช้กันในตอนนี้ประเทศไทยต้องชนะ เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม ไม่พูดไร้สาระ ไม่พูดสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์บิดเบือน ยามมีข้าวมีน้ำก็ต้องการผู้เป็นที่รัก ยามเกิดปัญหาก็ต้องการบัณฑิต นั่นคือคำสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ควรจะต้องมาเป็นหลักชัย หลักนำในการดำรงชีวิตของเราในช่วงนี้ ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะนี่คือประเทศไทยของท่าน นี่คือคนไทยของท่าน ไม่ว่าจะคนใดก็ตามก็คือคนไทย อย่ารังเกียจกันมากจนเกินไป กฎหมายก็ต้องทำตามกฎหมายเท่านั้นเอง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดหาวัคซีนมีความก้าวหน้า ซึ่งวันนี้ได้มีการพูดคุยไปทางประเทศรัสเซีย โดยตนได้มีการติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศก็มีแนวโน้มว่ามีแนวทางในการจัดหามากขึ้น คือวัคซีนสปุตนิก.วี รวมทั้งวัคซีนของไฟเซอร์ จากสหรัฐอเมริกา และอีกหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างการติดต่อถือเป็นความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดี ซึ่งก็จะต้องมาดูว่าจะซื้อได้จำนวนเท่าไหร่และเมื่อใด แต่ขั้นตอนทั้งหมดต้องขึ้นทะเบียนโดยบริษัทต่างๆที่จะขายให้กับเรา ก็ต้องขึ้นทะเบียนของทางองค์การอาหารและยา(อย.) ว่ายินดีที่จะขายให้กับองค์การเภสัชกรรมของไทยหรือจะขายในนามรัฐบาล ทั้งนี้การมีวัคซีนมากขึ้นตนยินดี เพราะจะได้นำมาฉีดให้กับคนไทยทั้งประเทศ ทั้งหมดได้มีการติดต่อไปแล้วอยู่ที่ว่าจะขายหรือไม่ ที่ผ่านมามีปัญหาเพราะเราไม่สามารถติดต่อได้ทั้งหมด เนื่องจากต้องไปร่วมลงทุนกับเขาด้วย ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาล แต่โชคดีที่ทางแอสตราเซเนกาเจรจาเป็นผลสำเร็จและเป็นโครงการต่อเนื่อง ถือเป็นความโชคดีของไทย ซึ่งหลังเดือนมิถุนายนเราก็จะมีวัคซีนจำนวนมาก เพราะสามารถผลิตได้ในประเทศ สามารถที่จะคำนวณฉีดกับประชาชนได้ โดยภายในปีนี้จะสามารถฉีดให้กับประชาชนให้เร็วที่สุดอย่างน้อยร้อยละ 60
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการแพร่ระบาดของโรคในขณะนี้ ตนได้สอบถามแพทย์แล้วว่าวัคซีนที่มีอยู่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในส่วนของแอฟริกาคงต้องรออีกสักระยะ แต่เราต้องระมัดระวังบุคคลที่จะเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยง
“สิ่งสำคัญขอร้องว่าอย่าเคลื่อนไหวกันไปมามากนัก ในเมื่อคนบางคนรู้ตัวเองว่าไปในพื้นที่ส่วนไหนมาก็อย่าพาตัวเองไปที่อื่น ไปเที่ยวสถานบริการมาก็ต้องไม่ไปที่อื่น ต้องเข้ารับการตรวจสอบคัดกรองหรือรักษาเพราะทุกคนรู้แน่แก่ใจ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ซึ่งปัจจุบันเรามีอยู่ทั้งสิ้นจำนวน 1.3 ล้านโดส เป็นของซิโนแวค อีกทั้ง วัคซีนของแอสตราเซเนกา จะเข้ามาในเดือนมิถุนายน 1.5 ล้านโดส และวันนี้ในที่ประชุมได้สั่งการไปแล้ว โดยต้องวางแผนเป็นรายสัปดาห์ว่าสัปดาห์แรกจะต้องมีการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์สายงานอื่นที่สัมผัสกับผู้ป่วยอย่างทั่วถึงภายในพื้นที่ระบาดหนัก สัปดาห์ที่สองต่อไปคือระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีการแพร่ระบาดหนักและฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สายงานอื่นที่สัมผัสกับผู้ป่วยปานกลาง สัปดาห์ที่สามระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในจังหวัดระบาดปานกลาง และฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สายงานอื่นที่สัมผัสผู้ป่วย ในจังหวัดระบาดเบา และสุดท้ายระดมฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดระบาดเบา โดยเราจะฉีดให้ครบทุกกลุ่มในระยะเวลา 1 เดือนจะต้องทำให้ชัดเจน เพิ่มปริมาณวัคซีน เพิ่มปริมาณการฉีดวัคซีน มีทีมหมอพยาบาลมากยิ่งขึ้น ในส่วนพื้นที่ที่จะทำการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็ต้องอาศัยข้อมูลกรณีที่พบอาการ พื้นที่ต่างจังหวัดในพื้นที่เขตเมืองก็จะใช้หลักเดียวกันกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร คือการกำหนดขนาดวงพื้นที่
“คิดว่ามาตรการต่างๆที่ประกาศออกมาผมใช้ความระมัดระวังมากที่สุด และอย่างที่บอกการตัดสินใจแบบนี้ผมเจ็บปวด เพราะรู้ว่ามีคนเดือดร้อน หลายคนเสนอว่าให้ปิดไปเลยปิดให้หมด แต่ผมต้องนึกถึงคนที่เดือดร้อน จะทำอะไรก็ตามเราต้องคิดถึงคนเหล่านี้ ขณะเดียวกันก็ต้องนึกถึงคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะฉะนั้นคนทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกัน ผมถึงต้องอยู่ตรงนี้ให้ได้ หลายอย่างถ้าไม่เข้าใจขอให้ถามมา หลายอย่างที่มีการบิดเบือนหรือพูดออกมาโดยไม่มีข้อเท็จจริง กรุณาว่าอย่าไปอ่านเลย ทำให้เกิดความสับสนไปเปล่าๆ ขอให้ฟังรัฐบาล เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่โจมตีรัฐบาลไม่ว่าจะหวังผลอะไรก็แล้วแต่ ไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติเลย ผมถือว่าไม่ร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ร่วมมือในการแก้ปัญหาให้กับคนไทยทั้งประเทศ ก็ขอให้ประชาชนติดตามดูก็แล้วกันว่าควรจะเชื่อใคร ควรจะนับถือใคร ควรจะให้ใครมาแก้ปัญหาให้ท่าน ผมยืนยันว่าชีวิตผมให้กับคนไทย ให้กับประเทศไทยไปแล้ว ผมต้องทำงานของผมให้เต็มที่จนกว่าผมจะทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ ผมขอยืนยัน สิ่งสำคัญขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว ยังไม่ล็อคดาวน์โอเคหรือไม่ เพราะเห็นใจ แต่อาจจะต้องลดเวลาลงบ้าง ผมไม่อยากจะปิดอะไรทั้งสิ้น เพราะการปิดมันง่ายนิดเดียว แต่คนเดือดร้อนจะเกิดขึ้นกับใครบ้าง สมมุติว่าเราปิดกันทั้งหมด เคอร์ฟิวกันทั้งหมด เจ้าหน้าที่ก็ต้องลงมาขึงพืด แล้วเจ้าหน้าที่ก็ติดโควิดไปเยอะ เจ้าหน้าที่ติดเชื้อ ประชาชนก็ต้องมาคัดกรองตรวจผ่านด่านต่างๆ ก็จะติดกันมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นการชุมนุมต่างๆ ถึงแม้จะเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ พวกท่านก็ต้องระวังไว้ก็แล้วกัน ผมไม่ได้ขู่ท่าน”
นายกฯ กล่าวว่า แล้ววันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็เข้ามาฉีดวัคซีนกับตนแล้ว หลายท่านเคยบอกว่าไม่มี หลอก วันนี้ก็คิดกันเองก็แล้วกันว่าจะฟังใคร เป็นบางคนบางพวกเท่านั้น ขอร้องว่าช่วยกันประเทศชาติจะได้ปลอดภัย วันนี้เราต้องการบัณฑิต วันนี้เราไม่ต้องการคนที่บ่อนทำลายซึ่งกันและกัน ประเทศไทยอยู่ไม่ได้หรอกแบบนั้น จึงขอร้องทุกคน และขอบคุณสื่อมวลชนทุกคน ตนโกรธพวกท่านไม่ได้อยู่แล้ว ตนเกลียดคนไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าถ้าเกลียดใครก็ตาม หรือไปแช่งใครก็ตามมันจะกลับมาที่ตัวเราเอง เพราะฉะนั้นตนไม่ทำเด็ดขาด ตนอโหสิให้ท่านทุกคน ถึงช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมถอนหายใจ