เด็ก พปชร.โต้รองเลขาธิการเพื่อไทยเข้าใจผิดเพี้ยน ป้อง “บิ๊กตู่” เน้นรักษาสมดุลสุขภาพกับเศรษฐกิจ พร้อมช่วยเหลือและเตรียมมาตรการรับมือกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องหลังโควิดคลี่คลาย
วันนี้ (16 เม.ย.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจ ประธานอนุกรรมการนโยบายด้านท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้ออกมาขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนจากการระบาดของไวรัสโควิด และเร่งช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้พยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้เกิดความสมดุลระหว่างเรื่องสุขภาพกับเศรษฐกิจมาโดยตลอด โดยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายซึ่งจะเห็นได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบนี้รัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะใช้ยาแรงล็อกดาวน์ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์แบบเหวี่ยงแห ทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ยังขับเคลื่อนไปต่อได้ ซึ่งข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินผลกระทบต่อบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีสัดส่วนการยกเลิกการเดินทางเพียง 20% ขณะที่มีกลุ่มที่ยังเดินทางท่องเที่ยวตามแผนเดิม 30% ส่วนอีก 50% ที่เหลือนั้นยังคงมีการเดินทางอยู่ แต่เปลี่ยนพื้นที่การท่องเที่ยวและรูปแบบการเดินทาง จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวไม่ได้หยุดชะงักทั้งหมด
น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการเยียวยาและกระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะทยอยออกมาเร็วๆนี้หลังจากที่สามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 วงเงิน 5,700 ล้านบาท ขยายสิทธิให้แก่ผู้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศอีก 2 ล้านสิทธิ รวมกับของเดิมที่มีการอนุมัติในระยะที่ 1 และ 2 ไปแล้ว 6 ล้านสิทธิ และโครงการทัวร์เที่ยวไทยวงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยจะอนุมัติให้สิทธิ์กับผู้ที่ซื้อทัวร์ 3 วัน 2 คืน โดยเป็นทัวร์โปรแกรมที่ลงไว้กับเว็บไซต์ของ ททท. โดยโปรแกรมที่จะมีการอนุมัติและตรวจสอบรัฐบาลจะช่วยอุดหนุนสูงสุด ไม่เกิน 40% หรือ 5,000 บาทต่อราย ราคาทัวร์สูงสุดไม่เกิน 12,500 บาทต่อโปรแกรมทัวร์ซึ่งต้องเป็นโปรแกรมทัวร์ที่เดินทางในวันธรรมดาเท่านั้น และในการชำระเงินต้องผ่านโปรแกรมแอพเป๋าตังค์ ส่วนบริษัททัวร์ก็ต้องมีการโหลดแอพถุงเงินเพื่อรับเงินเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญที่จะช่วยเหลือภาคท่องเที่ยว และยังกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปในระดับฐานราก เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น
“นายจักรพลไม่ควรรีบร้อนออกมาวิจารณ์โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน ทำให้มีความเข้าใจที่ผิดเพี้ยน ข้อเรียกร้องของนายจักรพลจึงไม่สมเหตุสมผลและสอดรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ดังนั้น มองว่านายจักรพล ควรขอโทษประชาชนมากกว่าที่ให้ข้อมูลแบบฉาบฉวย กล่าวหาเลื่อนลอยจนทำให้สังคมสับสนวิตกกังวล ทั้งที่รัฐบาลและ ศบค.ช่วยเหลือและเตรียมรับมืออย่างเป็นระบบมาโดยตลอด” น.ส.ทิพานันกล่าว