ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณนายกฯ ฟังเสียง รพ.เอกชน ตั้งคณะทำงานจัดหาวัคซีนโควิด-19 แม้ช้าไปเกือบ 4 เดือน หวังเร่งเพิ่มวัคซีนทางเลือก นำเข้าประเทศภายใน 2 เดือนนี้ สกัดไวรัสร้ายอาละวาด ฝากปรับแผนฉีดวัคซีนใหม่ อย่าเชื่อแต่ระบบเก่าในกรอบ แต่ให้คิดนอกกรอบในสมรภูมิสงครามโควิดนี้ ลดขั้นตอนนำเข้าในสถานการณ์ฉุกเฉิน บี้เอาผิด ตร.นอกรีตปล่อยสถานบันเทิงทองหล่อเย้ยกฎหมายจนลำบากทั้งประเทศ
วันนี้ (12 เม.ย.) ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยมีองค์ประกอบจากตัวแทนของโรงพยาบาลเอกชนเข้าไปร่วมด้วยว่า ต้องขอบคุณนายกฯ แม้จะขยับเรื่องนี้ช้าไปเกือบ 4 เดือน แต่เมื่อเริ่มนับหนึ่งเดินหน้าแล้วก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศและคนไทย ที่จะมีวัคซีนทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่มีเพียงแค่ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ที่ภาครัฐจัดหามาเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ผลิตวัคซีนหลายยี่ห้อ ในหลายประเทศ เช่น Sputnik V จากรัสเซีย Sinopharm ของจีน covaxin ของ อินเดีย Pfizer และ Moderna ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง Biontech เยอรมนี ซึ่งการเพิ่มวัคซีนทางเลือกนี้ ไม่ควรจำกัดอยู่เฉพาะแค่ในส่วนของภาคเอกชนเท่านั้น แต่รัฐบาลก็ควรจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นมาเพิ่มเติมด้วย อย่ายึดติดอยู่กับเฉพาะสองยี่ห้อที่นำเข้ามาแล้วเท่านั้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนไทย เพราะต้องไม่ลืมว่าในขณะนี้มีปัญหาวัคซีนกลายพันธุ์ จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้ด้วย ดังนั้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชน ควรเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งผลจากการฉีดวัคซีน และแผนการกระจายวัคซีนที่ควรปรับใหม่ เร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นเพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดที่กระจายเป็นวงกว้างในขณะนี้
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า เชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ไทย หากต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 3 แสนคนต่อวัน เพื่อให้ประชาชนกว่า 40 ล้านคนได้รับวัคซีนครบภายในปีนี้ สามารถทำได้แน่นอน ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการ และความกล้าที่จะคิดนอกกรอบ ลดขั้นตอนการนำเข้า สอดรับกับวิกฤต อย่าเชื่อแต่ข้อเสนอของระบบเดิม หรือยึดติดแต่แผนเดิมที่วางไว้แล้ว เพราะจะไม่ทันต่อสถานการณ์ ประเทศไทยเสียโอกาสมามากแล้ว เร่งนำเข้าวัคซีนยี่ห้อใหม่ๆ ให้ได้ภายในเดือนสองเดือนนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางรอดจากการพ่นพิษของเชื้อโควิด-19 ได้
“อยากฝากให้นายกฯ สั่งการให้สอบสวนการเปิดสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่มีทั้งเปิดผิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ ท่านต้องลงดาบจัดการตำรวจนอกรีด ที่ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะต้องไม่ลืมว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งสามรอบ ล้วนเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐหย่อนยาน ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้น ตั้งแต่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์สนามมวยลุมพินี แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย กระทั่งล่าสุดสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทำประชาชนลำบากทั้งประเทศ” ดร.พิมพ์รพีกล่าว
วันนี้ (12 เม.ย.) ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยมีองค์ประกอบจากตัวแทนของโรงพยาบาลเอกชนเข้าไปร่วมด้วยว่า ต้องขอบคุณนายกฯ แม้จะขยับเรื่องนี้ช้าไปเกือบ 4 เดือน แต่เมื่อเริ่มนับหนึ่งเดินหน้าแล้วก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศและคนไทย ที่จะมีวัคซีนทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่มีเพียงแค่ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ที่ภาครัฐจัดหามาเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ผลิตวัคซีนหลายยี่ห้อ ในหลายประเทศ เช่น Sputnik V จากรัสเซีย Sinopharm ของจีน covaxin ของ อินเดีย Pfizer และ Moderna ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง Biontech เยอรมนี ซึ่งการเพิ่มวัคซีนทางเลือกนี้ ไม่ควรจำกัดอยู่เฉพาะแค่ในส่วนของภาคเอกชนเท่านั้น แต่รัฐบาลก็ควรจัดหาวัคซีนยี่ห้ออื่นมาเพิ่มเติมด้วย อย่ายึดติดอยู่กับเฉพาะสองยี่ห้อที่นำเข้ามาแล้วเท่านั้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้คนไทย เพราะต้องไม่ลืมว่าในขณะนี้มีปัญหาวัคซีนกลายพันธุ์ จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้ด้วย ดังนั้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ประชาชน ควรเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งผลจากการฉีดวัคซีน และแผนการกระจายวัคซีนที่ควรปรับใหม่ เร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นเพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดที่กระจายเป็นวงกว้างในขณะนี้
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า เชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ไทย หากต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 3 แสนคนต่อวัน เพื่อให้ประชาชนกว่า 40 ล้านคนได้รับวัคซีนครบภายในปีนี้ สามารถทำได้แน่นอน ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการ และความกล้าที่จะคิดนอกกรอบ ลดขั้นตอนการนำเข้า สอดรับกับวิกฤต อย่าเชื่อแต่ข้อเสนอของระบบเดิม หรือยึดติดแต่แผนเดิมที่วางไว้แล้ว เพราะจะไม่ทันต่อสถานการณ์ ประเทศไทยเสียโอกาสมามากแล้ว เร่งนำเข้าวัคซีนยี่ห้อใหม่ๆ ให้ได้ภายในเดือนสองเดือนนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางรอดจากการพ่นพิษของเชื้อโควิด-19 ได้
“อยากฝากให้นายกฯ สั่งการให้สอบสวนการเปิดสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่มีทั้งเปิดผิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ ท่านต้องลงดาบจัดการตำรวจนอกรีด ที่ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะต้องไม่ลืมว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งสามรอบ ล้วนเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐหย่อนยาน ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้น ตั้งแต่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์สนามมวยลุมพินี แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย กระทั่งล่าสุดสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทำประชาชนลำบากทั้งประเทศ” ดร.พิมพ์รพีกล่าว
