xs
xsm
sm
md
lg

ลือ 2 รมต.เที่ยวทองหล่อติดโควิด “สุพัฒนพงษ์-ศักดิ์สยาม” รับสายแทบไหม้ ก่อนเฉลยถูกโยงเพราะเคส “ทูตญี่ปุ่น” ผู้ติดเชื้อตัวจริง ** “บิ๊กแป๊ะ” วันนี้มีแต่พรรคพวกชิงผู้ว่าฯ กทม.ขอสู้อิสระ พร้อมจุดขาย “4 เสา” โพลคนกรุงยกสองยังบี้ “ชัชชาติ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ - ศักดิ์สยาม ชิดชอบ - พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา - ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

ดรามา ลือ 2 รมต.เที่ยวทองหล่อติดโควิด ที่ทำเอาสุพัฒนพงษ์-ศักดิ์สยาม” รับสายแทบไหม้ ก่อนเฉลยถูกลากไปโยงเพราะเคส “ทูตญี่ปุ่น” ผู้ติดเชื้อตัวจริง

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (4 เม.ย.) มีกระแสข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่ามีรัฐมนตรีในรัฐบาลลุงตู่ ไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อซึ่งกำลังมีประเด็นเป็น “คลัสเตอร์โควิดใหม่” พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยที่ รมต.คนนี้ไม่ยอมกักตัว ไม่สวมมาสก์ และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แถมเข้าประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมกับเดินสายปฏิบัติภารกิจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อข่าวแพร่ออกไปก็ทำให้นักสืบโซเชียลฯ ทำงานกันจ้าละหวั่น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่นๆ คนระดับรัฐมนตรีติดโควิด แถมไม่กักตัวรักษาอีกต่างหากต้องเป็นเรื่องใหญ่ และถือเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก

ว่าแล้ว “เจ้ากรมข่าวลือ” ก็ซัดใส่รัฐมนตรีสองคนที่ต้องสงสัย คนแรกระบุว่าเป็น “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน โดยเห็นว่าเป็น รมต.ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ส่วนอีกคนเป็น รมว.คมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”โดยข่าวลือบอกว่าเป็นรัฐมนตรีคนหนุ่มที่ชื่นชอบครื้นเครงหลังเลิกงาน ถอดหมวก รมต.ออก สวมหมวกเลขาธิการพรรค ก็มักชักชวนกลุ่ม ส.ส.ในพรรคไปกระชับมิตรตามแหล่งบันเทิงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเลานจ์ดังย่านทองหล่อ

นี่เป็นกระแสข่าวในช่วงเช้าที่เจ้ากรมข่าวลือปล่อยมาถล่มรัฐมนตรีทั้งสองคน จนว่ากันว่ารับสายกันไม่หวาดไม่ไหว ทั้งเพื่อน รมว.และสื่อที่ตามล่าหาความจริงกัน

ความจริงเรื่องนี้เช็กกันไม่ยาก โดยเฉพาะไทม์ไลน์ตามการสืบสวนสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อแล้วค่อยย้อนมาเทียบกับ รมต.ทั้งสองคน

และแล้วปรากฏข้อเท็จจริงในเวลาต่อมา ว่ามีการยืนยัน “ทูตญี่ปุ่น” ติดเชื้อโควิด โดยเกี่ยวพันกับงานเลี้ยง พบปะคนสำคัญของรัฐบาลไทย และเช็กไทม์ไลน์อาจจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องที่ใกล้ชิดทูตคนนี้

ในรายของ “สุพัฒนพงษ์” จากปากคำของ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันจากการสอบสวนโรค และซักถามผู้เกี่ยวข้องแล้ว รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ ไม่ได้ร่วมงานเลี้ยงหรือไปเที่ยวสถานบันเทิงทองหล่อกับทูตญี่ปุ่นแต่อย่างใด

ขณะที่ รมว.ศักดิ์สยาม ก็เช่นกัน ไม่ปรากฏว่าเข้าไปร่วมงาน ไปเที่ยวตามที่มีข่าวลือออกมา

เบื้องหลังเรื่องนี้ คนใกล้ชิด “สุพัฒนพงษ์” บอกว่าหลังจากที่ทราบข่าวรองนายกฯ ได้รู้ ก็หัวเราะระคนสงสัยมากกว่าจะซีเรียสว่าช่างลือกันไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ จ.บึงกาฬ และ จ.อุดรธานี แต่เพื่อความสบายใจจะไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลอุดรธานี พร้อมๆ กับบอกเหตุผล สาเหตุที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เพราะแพทย์ให้ดูเรื่องของโรคหัวใจที่อาจจะมีผลได้

ส่วน รมว.ศักดิ์สยาม ในหมู่คนใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะรู้ว่า รมต.และเลขาฯ พรรคภูมิใจไทย ทำงานหนักเวลาพักแทบจะไม่มี อย่าว่าแต่ช่วงนี้คงไม่มีกะจิตกะใจไปเที่ยวกลางคืนที่ไหนแน่ เนื่องเพราะเสร็จภารกิจแต่ละวันก็ต้องเข้าทำกายภาพบำบัดอาการปวดคอ ปวดหลังที่โรงพยาบาล ตามวัยที่เริ่มมากขึ้น

ดรามาเรื่องข่าวลือของ รมต.ทั้งสองคนนี้ก็คลี่คลายออกมาด้วยประการฉะนี้

เหลือทิ้งไว้เป็นปริศนาที่ต้องตามไขตามเช็กกันต่อว่า นอกจาก 2 รมต.ตามข่าวลือแล้ว จากไทม์ไลน์ของทูตญี่ปุ่น มีพบใครที่ไหนอีก แว่วว่ามีคนของรัฐบาลลุงที่ไม่ใช่ ครม. แต่ก็ถือเป็น “คีย์แมน” สำคัญคนหนึ่งที่ลุงขาดไม่ได้ คนนี้เข้าข่ายสัมผัสใกล้ชิดทูตญี่ปุ่นโดยตรง

ส่วนจะเป็นใคร อันนี้ต้องติดตามกันต่อไป บอกใบ้ได้แค่นี้จริงๆ



“บิ๊กแป๊ะ-จักรทิพย์” วันนี้มีแต่ “พรรคพวก” ชิงผู้ว่าฯ กทม.ขอสู้อิสระ พร้อมจุดขาย “4 เสา” โพลคนกรุงอุ่นเครื่อง ยกสองยังบี้ “ชัชชาติ”

ยังคงรักษาฟอร์ม “พูดน้อยต่อยหนัก” สำหรับ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หลังจากชิมลางลงพื้นที่แชร์ความเห็นกับคนกรุงเทพฯ มาสักพัก เจ้าตัวก็เปิดใจเปิดตัว อาสาว่าจะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ในศึกเลือกตั้งที่ว่ากันว่าใกล้เข้ามาเต็มแก่ว่า “วันนี้ไม่มีพรรคการเมือง มีแต่พรรคพวก”

เรื่องนี้ต้องขยายความกันสักนิด เมื่อ “บิ๊กแป๊ะ” คิดจะลงสมัคร คนก็เริ่มพูดกันว่าเป็น “นอมินี” ให้พลังประชารัฐ พรรคของลุงๆ หรือไม่ เพราะความสนิทสนมกับลุงๆ หรือไม่

“บิ๊กแป๊ะ” ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน โดย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรทำก็น่าจะไปลงผู้ว่าฯ กทม. ส่วนเรื่องการจะสนับสนุนอย่างเป็นทางการหรือไม่อย่างไร คงต้องถามลุงป้อมเอง

ที่แน่ๆ สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ “บิ๊กแป๊ะ” ยืนยันหนักแน่นจะลงในนามอิสระแน่นอน ซึ่งร่างแผนไว้หมดแล้วโดยจุดขายในฐานะที่เป็นอดีตนายตำรวจเก่า รู้ถึงปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัวที่จะทำอย่างไรให้พี่น้องของเราดีขึ้น ให้บ้านหลังนี้ดีขึ้น

หลักก็คือ จะต้องมี “4 เสาหลัก” คือ 1. เรื่องความจิงใจ 2. ประสบการณ์ ความรู้ วิสัยทัศน์ที่จะนำมาใช้ในบ้านหลังนี้ 3. รับฟังปัญหาของทุกคน จากทุกองค์กร และสิ่งที่สำคัญที่สุด 4. ซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ

นับว่า “บิ๊กแป๊ะ” ประกาศชัดๆ อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่ 2” ก็ปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.67 บอกว่า ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ส่วนถ้าจะเลือก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ตัวเก็งที่เปิดตัวมานาน นำคนอื่นๆ ที่คน กทม.อยากให้เป็น ร้อยละ 24.77 ขณะที่ร้อยละ 11.93 เลือก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อันดับ 4 ร้อยละ 8.66 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อันดับ 5 ร้อยละ 4.26 ระบุว่าเป็นผู้สมัครจากคณะก้าวหน้า หรือพรรคก้าวไกล ตามลำดับ

งานนี้ “บิ๊กแป๊ะ” ก็รู้ว่าเพิ่งลงพื้นที่ 2-3 เดือน รู้อยู่แล้วว่ามาช้ากว่าคนอื่น และรู้ดีว่ามีข้อเสียเปรียบเยอะ บางคนมีฐานทางการเมืองอยู่แล้วขณะที่ตัวเองไม่มีอะไรเลย เข้ามาตัวคนเดียว

ดังนั้นจะต้องทำการบ้านหนักพอสมควร แต่โชคดีที่เคยอยู่ในพื้นที่ กทม.รู้ปัญหา นี่คือสิ่งที่ได้เปรียบจากอาชีพเดิม

สุดท้ายการขับเคี่ยวกันในศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.จะลงเอยอย่างไร คนกรุงจะเลือกใคร ก็ต้องติดตามกันต่อไป.




กำลังโหลดความคิดเห็น