หัวหน้า ปชป.คาดญัตติแก้ไข รธน.รายมาตราจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เมิน พปชร.ฉายเดี่ยวแก้ รธน. เผยพร้อมจับมือฝ่ายค้านเสมอ หากไม่แก้หมวด 1-2 - ป.วิอาญา ม.112
วันนี้ (25 มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคฯ ยกร่างแก้ไขรายมาตราแล้ว เช่น ในมาตรา 256 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, มาตรา 272 การตัดอำนาจวุฒิสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงประเด็นอื่นๆ ทั้งสิทธิชุมชน และการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นต้น โดยจะแยกการแก้ไขออกเป็นญัตติละ 1 มาตรา เพื่อไม่ให้ญัตติการแก้ไขถูกตีตกไปทั้งหมด และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ และพรรคประชาธิปัตย์จะไปหารือพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีประเด็นใดที่เห็นตรงกัน หรือประเด็นไหนที่ยังเห็นไม่ตรงกัน เพื่อปรับแก้และเดินหน้าการแก้ไขต่อไป
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่อาศัยพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ขอให้ไปสอบถามจากพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนในการแก้ไขแล้ว โดยพรรคพร้อมร่วมลงชื่อในญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกับฝ่ายค้านเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบผลสำเร็จ เพราะการแก้ไข จะต้องอาศัยความร่วมมือจาก 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภาอยู่แล้ว ดังนั้น หากมีความเห็นพ้องร่วมกันในการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 รวมถึงไม่แก้ไขส่วนที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พรรคก็พร้อมร่วมสนับสนุน
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะพรรคต้องการให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปจัดการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จต่อไป เพราะเงื่อนไขหนึ่งของการแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราบังคับว่าจะต้องนำไปทำประชามติด้วย หากไม่มีกฎหมายประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ หรือทำได้ก็ไม่สำเร็จเพราะต้องรอกฎหมายประชามติ และเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะเป็นกฎหมายที่บังคับไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าหากร่าง พ.ร.บ.ประชามติถูกตีตกในวาระ 3 อาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมืองได้นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนยังอยู่ในวาระที่ 2 ซึ่งกรรมาธิการฯ อยู่ระหว่างการปรับแก้ในมาตราอื่นๆ และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะนำกลับมาพิจารณาตามกระบวนการจนเสร็จสิ้นซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะให้การสนับสนุน