วันนี้ (24 มี.ค.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมเปิดประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญอีกครั้งเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และร่างกฎหมายที่ค้างพิจารณา วันที่ 7-8 เมษายนว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอความชัดเจนก่อนที่วิปรัฐบาลจะหารือร่วมกันอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสความเห็นต่อปัญหาในร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่แก้ไขเนื้อหามาตรา 9 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เพิ่มสิทธิประชาชนและรัฐสภาเสนอเรื่องให้ทำประชามติต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้นั้น ตนไม่ขอให้ความเห็นว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะกังวลว่าถูกมองว่าชี้นำ อย่างไรก็ดี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ. ... รัฐสภา รับปากว่าจะพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาให้แล้วเสร็จและวันที่ 2 เมษายนนี้ จะมีบทสรุปเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่เนื้อหาที่ถูกเพิ่มเติม ซึ่ง ส.ว.มองว่าส่งผลให้รัฐสภาไม่ผ่านวาระ 3 และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ยอมรับว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เป็นร่างกฎหมายสำคัญและรัฐบาลเป็นผู้เสนอ แต่การปรับแก้ไขนั้นเป็นสิทธิที่รัฐสภาจะดำเนินการได้ ส่วนการลงมตินั้นเป็นดุลพินิจและเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา หรือที่เรียกว่าฟรีโหวตได้ ทั้งนี้ ในร่างมาตรา 9 ที่รัฐสภาเห็นชอบให้แก้ไข จะพบว่ามี ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลลงมติสนับสนุนด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหา
“สิ่งที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบในเรื่องของกฎหมายไม่ผ่านสภา ต้องเป็นกฎหมายที่สำคัญ เช่น กฎหมายการเงิน พ.ร.บ.งบประมาณ ถ้าไม่ผ่าน รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะหากจะยึดแค่ว่าเป็นร่างกฎหมายของรัฐบาล แต่มีการแก้ไข หากลงมติไม่ผ่าน รัฐบาลต้องรับผิดชอบนั้น อาจต้องเห็นการเปลี่ยนรัฐบาลทุกเดือนก็เป็นได้” นายวิรัชกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า กังวลต่อกรณีที่มีผู้เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบหากร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ผ่านหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า “ไม่กังวลอะไร คนที่พูดนั้นเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว และไม่ต้องการให้รัฐบาลอยู่” นายวิรัชกล่าว