“สิระ” อัดม็อบอย่าคิดว่าถ่อยแล้วเท่ เตือนจำสิ่งที่ทำก่อนติดคุก ชี้ “ปิยบุตร” จะไม่มีแผ่นดินอยู่

ส.ส.พปชร. ถามม็อบก่อจลาจลหวังอะไร เตือนจำพฤติกรรมก่อนเข้าคุก อย่าคิดถ่อยแล้วเท่ ที่แท้ไร้สมอง ทำร้ายตร.เยี่ยงศัตรูอ้างแต่ ปชต. ถาม “ปิยบุตร” ดีจริงไม่หนีบเมียย้ายไปฝรั่งเศส อย่าเหนื่อยปลุกปั่น คนไทยไม่โง่ เตือนสุดท้ายไร้แผ่นดินอยู่

วันนี้ (21 มี.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ กล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม redem เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ตนขอถามพวกบ้าคลั่งกลุ่มนี้ ว่า ต้องการอะไร กระหายเงิน กระหายศพ หรือแค่ร่างกายอยากปะทะ หาคำตอบให้กับตัวเองก่อน ค่อยออกมาเรียกร้องบ้าๆ บอๆ จากสังคม แต่ตนเชื่อว่า พฤติกรรมถ่อยๆ ที่แสดงออกมา คิดว่าจะได้ดูเป็นฮีโร่ กล้า บ้าบิ่น อยากมีภาพปรากฏในสื่อโซเชียล ให้คนยกย่อง ขอให้ผู้ปกครองจดจำภาพวันนี้ไว้ จำสิ่งที่ลูกหลานได้กระทำลงไป แล้วนำมาไตร่ตรอง เวลาเดินคอตก น้ำตาแตก เข้าคุก อย่าได้ออกมาสรรหาเหตุผลเพื่อขอประกันตัว เอาคำว่าอนาคตของเด็กมาอ้าง ปิดหูปิดตาบอกลูกฉันเป็นคนดี ทั้งๆ ที่อนาคตมันหมดไปตั้งแต่คิดลงมือกระทำผิดกฎหมายแบบชั่วๆ แล้ว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากเรียกกลุ่มคนกลุ่มนี้ว่าม็อบ เพราะเป็นเพียงแค่คนถ่อยป่วนเมืองไม่กี่คน ที่ไม่ได้มีแม้กระทั่งอุดมการณ์ด้วยซ้ำไป เหมือนกับว่าเหงาไม่มีที่ยืนในสังคม จึงคิดว่าออกมาสร้างความชิบหายให้บ้านเมืองแล้วจะมีคนยกย่อง ตนขอฝากไปบอกด้วยว่า อย่าคิดว่าถ่อยแล้วเท่ ชาวบ้านที่เขาอาศัยอยู่แถวนั้นเดือดร้อนไม่ได้หลับได้นอน ตำรวจต้องมาบาดเจ็บเพราะคนเลวๆ สุดท้ายบรรดากองเชียร์โง่ๆ มาปลุกปั่นว่าตำรวจทำร้ายประชาชน แต่ไม่ได้ลืมหูลืมตาดูชาวแก๊งเลยว่า มาชุมนุมพกอาวุธอะไรมาบ้าง มีทั้งปืน มีทั้งระเบิด นี่ยังเรียกว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบอีกหรือ

“ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยการชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่พฤติกรรมก่อจลาจลแบบนี้ไม่มีใครเขารับได้ คุณทำร้ายร่างกายตำรวจเสมือนเขาเป็นศัตรูที่ต้องฆ่าทิ้ง ทั้งๆ ที่พวกเขามาทำตามหน้าที่ มีลูกเมียรออยู่ที่บ้าน ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งเลย เคยคิดถึงความเป็นมนุษย์ด้วยกันหรือไม่ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังแยกแยะไม่ได้ อย่ามาอ้างถึงประชาธิปไตยจอมปลอมเลย พวกคุณไม่มีสมองหรอก ก็แค่เดินให้เขาจูงจมูก ผมพูดจริงๆ นะ อย่าเรียกตัวเองว่าคนไทยเลย เพราะคนไทยจะไม่ลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง ไม่ทำลายประเทศให้ย่อยยับ และไม่ริอาจเผาพระบรมฉายาลักษณ์เช่นนี้” นายสิระ กล่าว

นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวไกล ไปบรรยายพิเศษให้นักศึกษา ม.ขอนแก่น ฟัง ในหัวข้อ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญไทยสู่ประชาธิปไตย หรือเสริมแกร่งเผด็จการ” ว่า ตนเห็นนายปิยบุตรเดินสายปลุกปั่นไปทั่วประเทศ สร้างความเชื่อแบบผิดๆ หวังที่จะให้เกิดสงครามกลางเมือง หมกมุ่นอยู่แค่การปฏิวัติฝรั่งเศส เพียงเพราะต้องการให้คนไทยฆ่ากันตายเหมือนที่ปฏิวัติฝรั่งเศส แบบที่ตอนนี้ยุยงกลุ่ม redem ให้ก่อนจลาจลผ่านสื่อโซเชียล ตนเชื่อว่า จิตใจของนายปิยบุตรมีแต่ความอำมหิต เหี้ยมโหด แบบที่ไม่เหมาะสมที่จะใช้คำนำหน้าว่าอาจารย์ เยาวชนที่เชื่อการปลุกปั่นทุกวันนี้มีสภาพเป็นอย่างไร นายปิยบุตรเคยเหลียวแลพวกเขาหรือไม่ นี่หรือคือจิตใจของครูบาอาจารย์

“ทุกวันนี้นายปิยบุตรเห็นค่าของเด็กๆ ที่หลงผิดเชื่อการปลุกปั่นเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง และนายปิยบุตรกำลังรอศพแรกที่จะเกิดขึ้น หากเกิดความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต นำไปเป็นบันไดเหยียบขึ้นไปสู่อำนาจที่ตัวเองต้องการ ผมอยากถามนายปิยบุตร ว่า ถ้าคิดว่าประเทศฝรั่งเศสมีการปกครองที่ดีกว่าแผ่นดินไทย เหตุใดถึงไม่ย้ายไปอยู่ที่นั่นกับภรรยา ในเมืองตัวเองก็มีภรรยาเป็นชาวฝรั่งเศสอยู่แล้ว จะมาทนอยู่ในประเทศที่ไม่มีความศิวิไลซ์ทำไม” นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า คนไทย 99% ไม่ได้เดือดร้อนกับระบอบการปกครองของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างร่มเย็นและสงบสุข จนกระทั่งคนไทยเริ่มรู้จักคนชื่อธนาธรและปิยบุตร คนไทยก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย วันนี้แนะนำให้หันกลับไปมองตัวเองและพวกพ้องว่าจริงๆ แล้ว คนที่เป็นตัวปัญหาของประเทศในขณะนี้คือใคร นายปิยบุตรต้องหยุดมโนว่าคนไทยเขาเห็นด้วยกับตัวเองทั้งหมด เพราะพวกโง่ๆ ที่เชื่อฟังยังมีไม่ถึง 1% ของคนทั้งชาติเลย และคนไทยส่วนใหญ่เขารู้ทันว่าเป้าหมายของนายปิยบุตรและธนาธรคืออะไร แต่ตนมั่นใจว่า กว่าจะถึงเป้าหมาย แผ่นดินไทยคงไม่มีชื่อคน 2 คนนี้เหยียบให้หนักแล้ว