พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีมติให้ ส.ส.ในสังกัดไม่รับร่างรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เพื่อจัดให้มีการลงประชามติเสียก่อน
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เปิดเผยว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทยออกแถลงการณ์โดยมีเนื้อหา ดังนี้ สืบเนื่องจากการที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ประกาศแถลงการณ์ของพรรคฯ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ที่แสดงจุดยืนของพรรคฯ ในการคัดค้านการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยไม่จัดให้มีการลงประชามติเสียก่อน เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดจากการออกเสียงแสดงประชามติรับรองโดยประชาชนเสียงข้างมากของประเทศไทย อันถือได้ว่าประชาชนได้เป็นผู้ “สถาปนา” รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้
เมื่อได้มีการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ซึ่งสมาชิกรัฐสภาทั้งที่เป็นพรรคฝ่ายค้านและที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่างได้ยื่นเสนอต่อรัฐสภา และต่อมาได้มีการรวมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเข้าด้วยกัน อีกทั้งร่างรัฐธรรมนูญฯ แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาลงมติของรัฐสภาในวาระที่ 2 แล้ว และกำลังรอที่จะนำร่างดังกล่าวเข้าพิจารณาลงมติรับรองในรัฐสภาอันเป็นวาระที่ 3 ต่อไป
เป็นที่ประจักษ์ชัดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 นี้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 4/2564 เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (1) อันมีสาระสำคัญสรุปได้ว่า “รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
สาระสำคัญแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวนี้ มีความสอดคล้องตรงกันกับจุดยืนตั้งแต่แรกของพรรครวมพลังประชาชาติไทย นับตั้งแต่ที่มีการริเริ่มโดยสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะให้มี “การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ดังปรากฏตามร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่จะให้มีหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคมศกนี้ จึงได้มีมติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคฯ จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้ในการประชุมของรัฐสภา วาระที่ 3