ส.ส.กทม.พปชร.ซัด “ศรีสุวรรณ” ขู่เอาผิด ส.ส.-ส.ว.โหวตวาระ 3 ร่าง รธน. เข้าข่ายคุกคาม ขัด รธน. ม.114 จวกยับรู้ทุกเรื่องเว้นเรื่องตัวเอง จ้องโหนกระแสท่าเดียว วอนสื่อกรองประเด็นหวั่นเพิ่มขยะบนหน้า นสพ.
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุหากสมาชิกรัฐสภาใดโหวตรับแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะร้อง ป.ป.ช.เอาผิดทันที ว่า เป็นพฤติกรรมที่น่าเอือมระอาอย่างยิ่ง เพราะนายศรีสุวรรณทำตัวเป็นนักร้อง ร้องไปทั่วเหมือนรู้ทุกเรื่อง เสียอย่างเดียวไม่รู้เรื่องตัวเอง และไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายอย่างแท้จริง มองแต่มุมที่จะเห็นประโยชน์ให้ตัวเอง โหนกระแสเข้าไปอยู่บนหน้าสื่อเท่านั้น จึงอยากเตือนว่าก่อนจะขู่ใครให้ระมัดระวังตัวเองดีกว่า เพราะขาข้างหนึ่งอาจไปอยู่ในคุกแล้วเนื่องจากกำลังทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ที่บัญญัติว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ สิ่งที่นายศรีสุวรรณกำลังทำอยู่ถือเป็นการข่มขู่คุกคามฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรง
นายสิระกล่าวต่อว่า นายศรีสุวรรณต้องอย่าลืม ส.ส.และ ส.ว.ทุกคนมีสิทธิในการโหวตรับร่างกฎหมายหรือไม่ อย่างเป็นอิสระ การออกมาระบุว่าจะดำเนินคดีเช่นนี้เสมือนเป็นการข่มขู่ ส.ส.และ ส.ว.ทำให้ขาดความอิสระในการตัดสินใจลงมติหรือไม่ การประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 17 นี้ ก็คงจะมีการหารือกันในเรื่องนี้และสุดท้ายสภาต้องยึดรัฐธรรมนูญ และยึดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลักอยู่แล้ว นักร้องอย่างนายศรีสุวรรณคงไม่จำเป็นต้องมาก้าวก่าย
“ผมคิดว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.และ ส.ว.ใช้ดุลพินิจตัดสินใจ อย่ามาข่มขู่กัน เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครกลัวใคร นายศรีสุวรรณออกมาข่มขู่คุกคามฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างไร ทุกคนมีคุณวุฒิ วัยวุฒิที่จะพิจารณาได้ บางคนเป็นนักกฎหมายอาชีพ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎหมายมากกว่านายศรีสุวรรณด้วยซ้ำไป นายศรีสุวรรณควรจะเลิกโหนกระแสเสียที และอยากฝากสื่อมวลชนว่าให้พิจารณาเนื้อหาที่นายศรีสุวรรณขยันออกแถลงการแจกด้วยว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ จะได้ไม่เพิ่มขยะบนหน้าสื่อ” นายสิระกล่าว