ผบ.ทบ.ยันปรับย้ายในสรรพาวุธ ไม่เกี่ยวผลสอบร้องเรียนทุจริต แค่ย้ายตามวาระ ระบุนายกฯ เห็นด้วยภาพรวมโผ ทบ. ปิ๊งไอเดียทำแอปฯ S.M.A.R.T SOLDIERS ให้ทหารร้องทุกข์ผู้บังคับบัญชา เดินหน้าปรับลุคสนามมวยกองทัพไร้ผีพนัน
วันนี้ (12 มี.ค.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปีในส่วนของกรมสรรพาวุธทหารบกหลายตำแหน่งอาจเป็นผลจากการร้องเรียนของ “หมู่อาร์ม” ในช่วงที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.ว่า ไม่เกี่ยว ในส่วนของเจ้ากรมสรรพาวุธก็ขยับขึ้นรองเสนาธิการทหารบกตามลำดับชั้น ส่วนตำแหน่งอื่นเช่นรองเจ้ากรมสรรพาวุธนั้นเป็นคนเดิมเกือบทั้งหมด ผู้บัญชาการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) ก็คนเดิม ที่ไปจากกรมส่งกำลังบำรุง (กบ.ทบ.) ก็อยู่ สพ.ทบ.มาก่อน ก็ลงไปดูเรื่องสรรพาวุธ ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนที่เหมาะสม ไม่มีอะไรผิดแปลก ครั้งนี้ไม่มีอะไร เป็นไปตามวาระ เมื่อถามว่าเป็นเพราะผลสอบสวนออกมาพบว่ามีความผิดด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า “สอบสวนอะไรครับ ยังไม่ทราบเลย” ทั้งนี้ การสอบสวนก็เป็นเรื่องการสอบสวน ถือเป็นเรื่องภายในกองทัพบก ส่วนการพิจารณาการทำงานก็เป็นเรื่องความเหมาะสม ทุกอย่างเป็นไปตามคณะกรรมการของกองทัพบก และคณะกรรมการปรับย้ายนายพลของกระทรวงกลาโหม รวมถึงนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมด้วย ซึ่งท่านก็ไม่ได้ถามไถ่อะไร บอกว่าทุกอย่างที่เสนอมาเป็นไปด้วยความเหมาะสมที่จะปฏิบัติงานที่กองทัพบก
พล.อ.ณรงค์พันธ์ยังกล่าวถึงเรื่องการรับเรื่องร้องทุกข์ที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ทำไว้ คือ ฮอตไลน์ และสายตรง ว่ามีคนสงสัยว่าเมื่อตนมาดำรงตำแหน่งเรื่องดังกล่าวจะหยุดไป ยืนยันว่าไม่ได้หยุด แต่กำลังหาวิธีการใหม่ๆ ให้กำลังพลสามารถเข้าถึงเรื่องเหล่านี้ได้ง่าย จึงได้สั่งการให้ฝ่ายเทคโนโลยีกองทัพบกจัดทำแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “S.M.A.R.T SOLDIERS” หรือระบบรับเรื่องร้องทุกข์และประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งระบบแอนดรอยด์ และระบบ iOS โดยจะมีเรื่องหลักๆ คือ กำลังพลร้องทุกข์ผู้บังคับบัญชาหากไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีในระเบียบว่าด้วยวินัยทหารปี 2497 อยู่แล้ว แต่เป็นเพียงเอกสารเท่านั้น ตอนนี้ได้ทำเป็นแอปพลิเคชันสามารถร้องทุกข์ได้ทั้งวาจาและลายลักษณ์อักษร
พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า แม้จะมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่ทุกอย่างก็ยังต้องทำตามระเบียบวินัยทหาร โดยผู้ที่เข้าไปใช้ระบบแอปพลิเคชันดังกล่าวจะต้องมีการพิสูจน์ตัวตน มีเอกสารประกอบ เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกัน หรือกล่าวร้องทุกข์เป็นเท็จ โดยขณะนี้แอปพลิเคชันทำสำเร็จแล้ว อยู่ในขั้นการทดลอง และได้ให้หน่วยต่างๆ แจ้งให้กำลังพลรับทราบ นอกจากนี้ ในแอปพลิเคชันยังสามารถร้องเรียนข้าราชการอื่น หรือปัญหาต่างๆ ได้ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะดูแลในส่วนนี้ สรุปคือสามารถร้องทุกข์ของทหาร และร้องเรียนเรื่องภายนอกได้ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดผู้ที่ใช้โทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์สามารถโหลดแอปฯ ได้แล้ว
พล.อ.ณรงค์พันธ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูปกองทัพในเรื่องสวัสดิการเชิงพาณิชย์ว่า สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์, สถานที่พักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก ลานนา จ.เชียงใหม่ และสถานที่พักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก ไชยนารายณ์ จ.เชียงราย ที่เป็นลักษณะสถานที่พักผ่อน ได้ให้ทางเครือดุสิตธานีเข้าไปดำเนินการ โดยยึดตามเอ็มโอยูที่กองทัพบกได้ลงนามกับกรมธนารักษ์ ซึ่งจะต้องจ่ายรายได้ให้กรมธนารักษ์ตามที่ลงนามไว้ ส่วนที่ไชยนารายณ์นั้นเพิ่งเปิดให้บริการ ยังไม่สามารถคำนวณรายได้ที่ต้องจัดส่งให้กรมธนารักษ์
ส่วนกรณีสนามวยลุมพินีที่จะการเปิดแข้งขันในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) นัดแรก พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ได้ผ่านการประชุม และตนได้ย้ำนโนบายว่าให้เปลี่ยนเป็นอย่างแรกว่า ‘ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก’ แต่จะมีวงเล็บต่อท้ายก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารจะพิจารณาตามระเบียบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกรมสวัสดิการ ทบ. โดยได้เสนอให้ใช้ชื่อ ‘มวยไทยลุมพินี’ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ แต่ขณะเดียวกัน ต้องตรงตามวัตถุประสงค์การส่งเสริมกีฬามวยไทยและรักษาวัฒนธรรมไว้ แต่จะไม่ให้มีการขายตั๋ว ไม่มีกิจกรรมเชิงอบายมุข และใช้วิธีถ่ายทอดสดตามมาตรการของ ศบค. โดยในอนาคตหลังจบสถานการณ์โควิดจะเปิดขายบัตรให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและให้ชาวต่างชาติเรียนรู้ศิลปะมวยไทย แต่จะไม่ขายบัตรให้คนไทยเพื่อเข้ามาเล่นการพนันโดยเด็ดขาด แต่ต้องทำประโยชน์ให้แก่กำลังพลและนักเรียน นักศึกษา หากมาขอใช้ในการแข่งขันชกมวยก็ยินดีให้การสนับสนุน รวมทั้งอาจมีกีฬาประเภทอื่นเพิ่มเข้ามาให้เป็นศูนย์พัฒนากีฬาของกองทัพบก เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับกำลังพลครอบครัวและบุคคลทั่วไป
เมื่อถามว่ายังคงมีตำแหน่งนายสนามมวยหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า ก็ยังต้องมี ในรูปแบบคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ไม่ใช่เจ้ากรมสวัสดิการกองทัพบก ซึ่งตำแหน่งต่างๆ จะแยกไปตามหน้าที่เพื่อให้ทุกคนทำหน้าที่ได้เต็มที่ เพื่อให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารภายใต้ ผอ.ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ซึ่งแต่ละแห่งจะมีคณะกรรมการคนละชุดกันเพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ จะได้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเดียวกัน ไม่ใช่ทำงานหลายมือแล้วจะประสบความสำเร็จได้