แกนนำ ปชป.แห่เข้าพรรค จับตาเคาะชื่อ รมต.แทน “ถาวร” กลุ่ม “บัญญัติ” ดัน “สินิตย์” สู้กับ “นริศ” ที่ได้แรงหนุนจากกลุ่ม “จุรินทร์” คาด ประชุม กก.บห.เร็วๆ นี้ แย้มสเปกเป็น ส.ส.ปัจจุบัน ไม่เคยนั่ง รมต.
วันนี้ (9 มี.ค.) รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าการเสนอชื่อบุคคลเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ หลังเสร็จการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางเข้าไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค แม้วันนี้ลาประชุม ครม.เนื่องจากป่วย แต่ได้เดินทางเข้าไปยังที่ทำการพรรค ในช่วงเย็น ซึ่งคาดว่า น่าจะมีการหารือถึงการปรับ ครม.และเตรียมการนัดหมายการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพราะตามข้อบังคับพรรค จะต้องมีการนำชื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กก.บห.เพื่อลงคะแนนแบบลับ จากนั้นจะขอความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.กับ ส.ส.พรรค เพื่อลงมติลับเช่นกัน คาดว่า น่าจะมีความชัดเจนในการเรียกประชุม กก.บห. และการประชุม ส.ส.พรรคในเร็วๆ นี้
สำหรับรายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายจะได้รับการพิจารณาดังกล่าว จะมีการให้น้ำหนักกับผู้ที่เป็น ส.ส.ในปัจจุบัน และไม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีมาก่อน อาทิ 1. นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี 2. นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง 3. นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 4. นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส. 5 สมัย ขณะเดียวกัน มีความพยายามจากผู้ที่เป็นอดีต ส.ส.ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายวิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง ที่มีความอาวุโสทางการเมืองเช่นกัน จะเสนอตัวเข้ารับการพิจารณาครั้งนี้ด้วย แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารพรรคจะให้โอกาสแก่ผู้ที่เป็น ส.ส.ปัจจุบันมากกว่า
อย่างไรก็ตาม มีการวิพากษ์วิจารณ์ภายในพรรคว่าชื่อของนายนริศ น่าจะได้รับการสนับสนุน เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับนายจุรินทร์ แต่มี ส.ส.และสมาชิกพรรคบางส่วนในพรรคเห็นว่าควรให้โอกาสนี้แก่นายสินิตย์ ที่เป็นตัวแทนจากกลุ่ม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เพราะเป็นผู้ที่มีความอาวุโส และกลุ่ม ส.ส.สุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 คน สามารถผนึกกำลังกันจนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบยกจังหวัด และเนื่องจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ มีการพูดถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่ถึง 2 ปี พรรคประชาธิปัตย์ควรจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการคัดเลือกคนไปเป็นรัฐมนตรีที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างฐานเสียงของพรรคให้ แต่ถ้ายังเลือกแต่คนที่ใกล้ชิดกับผู้บริหารพรรค ก็น่ากังวลว่าอาจทำให้ยิ่งเกิดความแตกแยกภายในพรรคได้
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีของนายสินิตย์ได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษา และเป็นแกนนำสำคัญของพรรคใน จ.สุราษฎร์ธานี เห็นด้วยกับเหตุผลเหล่านี้ จึงเห็นชอบการเสนอชื่อนายสินิตย์ และรับปากว่าจะนำชื่อนี้ไปพูดคุยกับนายจุรินทร์ให้นำชื่อเข้าสู่ที่ประชุม กก.บห.