จบที่ศาล รธน. กกต.เล็งยื่นวินิจฉัยสถานะ ส.ส. 5 จำเลยคดีกบฏ กปปส. หลังสภาเตรียมส่งหนังสือขอความชัดเจน
วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีปัญหาข้อถกเถียงว่า การที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย นายชุมพล จุลใส จำเลยในคดีชุมนุม กปปส. ต้องคำพิพากษาศาลอาญาจำคุก และถูกควบคุมตัวอยู่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกันตัวนั้น มีผลทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(6) หรือไม่นั้น มีรายงานว่า ทางสำนักงานกกต.ได้รับการประสานจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเตรียมส่งหนังสือถึงสำนักงาน กกต.ขอให้พิจารณาดำเนินการกรณีดังกล่าว
ซึ่งในส่วนที่ กกต.เข้าไปเกี่ยวข้องจะเป็นกรณีของนายถาวร เสนเนียม ส.ส.เขต 6 สงขลา และ นายชุมพล ส.ส.เขต 1 ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกคุมขังอยู่ระหว่างรอประกันตัว แต่นายชุมพลมีกรณีการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปีพ่วงด้วย โดยคาดว่าทางสำนักงานฯจะเร่งรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุม กกต.ในสัปดาห์หน้าพิจารณา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า แม้หนังสือของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะแจ้งให้ กกต.ดำเนินการ และแม้ กกต.เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้นั้นสิ้นสุดลงแล้วก็ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4) (6) และมาตรา 96(2) โดยมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณี นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นบรรทัดแล้ว แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคท้ายบัญญัติว่า “กรณี กกต.เห็นว่า สมาชิกภาพของ ส.ส.คนใดสิ้นสุดลงให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย” ดังนั้น จึงต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ซึ่งที่ผ่านมา กกต.ก็จะใช้คำร้องของผู้ร้อง หรือหนังสือหารือของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นต้นเรื่องในการพิจารณายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่น กรณีของนายนวัธ และนายเทพไท เป็นต้น
ทั้งนี้ ในส่วนของนายพุทธิพงษ์ และนายอิสสระ นายณัฎฐพล ที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น กกต.เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105(2) ถือเป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณาว่าการที่ถูกคุมขังอยู่ระหว่างการรอประกันตัวนั้น เป็นเหตุให้ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ และสามารถดำเนินการประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ และ พรรคประชาธิปัตย์ เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 7 วัน นับแต่ตำแหน่งว่างลงได้เลยหรือไม่ แต่หากหนังสือของสภาที่จะส่งมาขอให้พิจารณากรณีสมาชิกภาพ ส.ส.ของบุคคลทั้ง 3 ด้วย สำนักงาน ก็จะเสนอ กกต.พิจารณารวมไปทั้งหมด