“ณัฏฐพล-อิสสระ-ชุมพล” พ้น ส.ส.ทันที หลังศาลถอนสิทธิเลือกตั้ง ส่วน “ถาวร-พุทธิพงษ์” รอลุ้นเอกสิทธิ์ในสภา

“ณัฏฐพล-อิสสระ-ชุมพล” พ้น ส.ส. ทันที หลังศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส่วน “ถาวร-พุทธิพงษ์” รอลุ้นเอกสิทธิ์ในสภา เหนือกว่าหมายคุมขังศาลหรือไม่

วันนี้ (24 ก.พ.) หลังศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกในส่วนของบุคคลที่มีตำแหน่งเป็น ส.ส. ในส่วนของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังคงมีข้อถกเถียงว่าบุคคลทั้งสองถือว่าหลุดพ้นจากสภาพการเป็น ส.ส.แล้วหรือไม่ เพราะหากพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 มาตรา 101(6) และมาตรา 98(6) บัญญัติลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่งไว้ว่า ต้องไม่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

แต่ทั้งนี้ ตามมาตรา 125 ระบุว่า ระหว่างสมัยประชุมสภา ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัว ส.ส. หรือ ส.ว. ไปทำการสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก

จึงยังต้องรอความชัดเจนจากทางสภา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีข้อขัดแย้งก็อาจจะต้องมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

อย่างไรก็ตาม บางฝ่ายมองว่า การที่ศาลคุมขังนายถาวร ระหว่างรอการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ เท่ากับเป็นเหตุให้นายถาวรขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แล้ว เพราะถือว่าขาได้เหยียบเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว แม้หากสภาจะมีมติให้นายถาวรได้รับเอกสิทธิ์ ก็ไม่ได้ทำให้การถูกจำคุกจริงของนายถาวรหายไป

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 ปี แม้คำพิพาษาดังกล่าวจะเป็นศาลชั้นต้น แต่ก็มีผลให้บุคคลทั้ง 3 พ้นจากการเป็น ส.ส.ทันทีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4)(6) มาตรา 96(2)

ส่งผลให้ต้องมีการเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และ พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาแทน นายณัฏฐพล และ นายอิสสระ ส่วน นายชุมพล เมื่อพ้น ส.ส.แล้วต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ใน จ.ชุมพร เขต 1