อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แกนนำ กปปส.โดนตัดสิทธิการเมืองแค่ 5 ปี เป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ปี 50 เหตุทำผิดในปี 57 เตือนผู้ชุมนุมทำได้ตามเสรีภาพ แต่อย่าทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (25 ก.พ.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงปัญหาการตีความการตัดสิทธิทางการเมือง หลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกแกนนำ กปปส.ว่าโทษตัดสิทธิทางการเมือง ทำไมคำพิพากษาของศาลอาญาจึงมีบางคนถูกตัดสิทธิทางการเมือง และบางคนไม่ถูกตัดสิทธิ และทำไมถูกตัดสิทธิแค่ 5 ปี ไม่เหมือนกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกตัดสิทธิ 10 ปี โดยเห็นว่าข้อกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ เป็นทั้งความผิดตามกฎหมาย และความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ปี 2550 ซึ่งเฉพาะความผิดใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เท่านั้นที่มีโทษตัดสิทธิทางการเมือง ตามมาตรา 76 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2550 ซึ่งไม่ใช่ฉบับปัจจุบันปี 2561 เนื่องจากเป็นความผิดในปี 2557 ระบุว่า ใครขัดขวาง หน่วงเหนี่ยวคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องระวางโทษตามมาตรา 152 คือ จำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี ดังนั้น คนที่ถูกฟ้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เท่านั้นที่จะถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งหมายถึงสิทธิทางการเมืองอื่นๆ ด้วย เป็นเวลา 5 ปี ถือว่าเป็นโทษในขณะนั้น
นายสมชัยยังระบุว่า ปัจจุบันความผิดแบบนี้ คือ มาตรา 100 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฉบับปัจจุบัน มีการปรับโทษใหม่ตามมาตรา 164 โดยเพิ่มเป็นเพิกถอนสิทธิ 10 ปี
“คดีการขัดขวางคนไปใช้สิทธิ กกต.ในยุคนั้น ยังได้ขอให้ กกต.จังหวัด ฟ้องในทุกจังหวัดที่มีการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งศาลน่าจะได้ตัดสินไปหมดก่อนหน้านี้แล้ว คดี กปปส.คงเป็นบทเรียนว่า ท่านชุมนุมได้เป็นเสรีภาพ แต่ท่านทำผิดกฎหมายไม่ได้ การได้รับโทษทัณฑ์ดังกล่าว ศาลได้ตัดสินตามข้อเท็จจริงที่อัยการนำเสนอ แม้จะล่าช้ากว่า 7 ปีก็ตามยังอุทธรณ์ได้ แต่สำหรับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง เมื่อถูกตัดสิทธิทางการเมืองแล้วถือว่าต้องถือว่าจบครับ”