xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเร่งผลิตกำลังคนรับ 10 อุตสาหกรรม ผ่าน กยศ.ลดต้นดอก เรียนสาขาที่ตลาดต้องการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ (แฟ้มภาพ)
โฆษกรัฐบาล เผยเร่งผลิตกำลังคนรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลดเงินต้น ลดดอกเบี้ย กู้เรียนในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน

วันนี้ (21 ก.พ.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยทุกคนโดยเฉพาะเด็กยากจนหรือเด็กด้อยโอกาส ให้เข้าถึงการศึกษา เพื่อผลิตกำลังคนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อป้อนกำลังคนในสาขาที่เป็นความต้องการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและวิชาชีพสาขาขาดแคลน ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)

กยศ. จึงได้สนองนโยบายรัฐบาล ด้วย “โครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital)” ซึ่งดําเนินการระหว่างปีการศึกษา 2562-2566 สําหรับนักศึกษาผู้กู้ยืมเงินในระดับปริญญาตรี เมื่อสําเร็จการศึกษาในสาขาวิชาที่กําหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกิน ร้อยละ 0.5 ต่อปี และได้ส่วนลดเงินต้นร้อยละ 30 สําหรับนักเรียน/นักศึกษาผู้กู้ยืมเงินในระดับอาชีวศึกษา เมื่อสําเร็จการศึกษา ในสาขาวิชาที่กําหนดจะคิดดอกเบี้ยอัตราไม่เกินร้อยละ 0.5 ต่อปี และได้ส่วนลดเงินต้นร้อยละ 50

โดย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมแพทย์ครบวงจร รวมทั้ง 3 โครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ อุตสาหกรรมระบบราง อุตสาหกรรมพาณิชย์นาวีและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยในปีการศึกษา 62 และ 63 มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการแล้ว 59,874 คนและ 65,217คน ตามลำดับ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ผ่านมา กยศ. ยังได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมในช่วงโควิด-19 เช่น

• ได้กำหนดลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้และปิดบัญชีสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564
• ลดเบี้ยปรับ 80% เฉพาะผู้กู้ยืมที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างให้มีสถานะปกติสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564
• ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมที่ไม่เคยผิดชำระหนี้และชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียวกันสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564
• ลดอัตราเบี้ยปรับจาก 7.5% เหลือ 0.5% ถึง 30 มิถุนายน 2564
• พักชำระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี (2563-2564

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2539 มีผู้กู้เงินกองทุนไปแล้ว 5,972,343 ราย เป็นเงินกู้ 655,146 ล้านบาท และสำหรับสถานะ กยศ. ณ สิ้นปี 2563 จากผู้กู้จำนวน 5.9 ล้านราย มีผู้กู้ปิดบัญชีไปแล้ว 1,343,496 ราย อยู่ระหว่างปลอดหนี้ 998,512 ราย และอยู่ในระหว่างชําระหนี้ 3,567,661 ราย และจากผู้ที่อยู่ระหว่างผ่อนชําระหนี้ 3.5 ล้านราย มีผู้กู้ยืมผิดนัดชําระหนี้ จํานวน 2,209,509 ราย คิดเป็นเงินต้นค้างชําระ จํานวน 78,506 ล้านบาท โดยในปีการศึกษา 2563 กยศ.ให้กู้ยืม 600,000 ราย จำนวนเงิน 33,000 ล้านบาท และกองทุนบริหารจัดการโดยไม่ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินตั้งแต่ปี 2561 แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น