“แรมโบ้” ปราม “เก่ง การุณ” อย่าเพ้อเจ้อมากไป ยืนยัน กรณีรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยื่นศาล รธน.ตีความญัตติฝ่ายค้านไม่ใช่เพราะรัฐบาลกลัวการอภิปราย แต่กลัวฝ่ายค้านถูกดำเนินคดีมากกว่า หากจะใช้เวทีนี้อภิปรายพาดพิงสถาบัน พร้อมขอฝ่ายค้านไปเคลียร์เรื่องเวลาอภิปรายก่อนที่จะมีปัญหาขัดแย้งกันเองเหมือนในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย บอกว่า รัฐบาลกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนมีคำครหาไปทั่วว่า รัฐบาลหรี่ตาปล่อยให้ลิ่วล้อบางคนออกมาล้มอภิปราย โดย นายสุภรณ์ ยืนยันว่า นายกฯและรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมีความมั่นใจและพร้อมที่จะชี้แจงในครั้งนี้อยู่แล้ว และยืนยันว่า การที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยื่นญัตติด่วนให้สภาพิจารณาญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความนั้น ไม่ได้เพราะกลัวการอภิปราย แต่เป็นเพราะกลัวว่าฝ่ายค้านจะถูกดำเนินคดีมากกว่า หากจะใช้เวทีนี้อภิปรายพาดพิงสถาบันซึ่งอาจเจอมาตรา 112 หรือบางพรรคอาจถูกยุบพรรคเหมือนอดีตพรรคไทยรักษาชาติได้
นายสุภรณ์ ยังมองว่า หากนายการุณ หรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่อยากให้ ส.ส.จากฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นมาประท้วง ก็ขอให้อภิปรายในประเด็น และอยู่ในกรอบ โดยอย่าอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันเด็ดขาด เพราะเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. จากพรรครัฐบาล หรือประชาชนก็คงทนกับเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่จงรักภักดีต้องการปกป้องสถาบันให้อยู่คู่แผ่นดินไทย
“หากพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายไม่เข้าประเด็น และมีการพาดพิงสถาบัน ก็ไม่แปลกที่จะมี ส.ส. จากฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วง นอกจากนี้ ตนเองยังยืนยันว่า หากมีการพูดในลักษณะก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันของฝ่ายค้าน ก็จะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 112 ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ข้ามวันข้ามคืน
พร้อมกันนี้ ยังฝากไปยัง นายการุณ พรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน อย่าเป็นห่วงนายกฯ และรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายเลย เพราะนายกฯ ได้เตรียมตัวมาอย่างดี ชี้แจงได้ทุกประเด็น เนื่องจากไม่เคยทำอะไรเสียหายอยู่แล้ว และขอให้เอาเวลาไปเคลียร์เรื่องของพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนว่าใครจะอภิปรายเรื่องใด หรือจะไม่ทะเลาะกันในเรื่องแย่งเวลาการอภิปรายกัน เพราะตนเองกลัวว่าพรรคฝ่ายค้านจะแตกคอกันอีกเหมือนตอนที่อภิปรายในครั้งที่ผ่านมา
จนเกิดการแถลงโจมตีกันเอง และที่สำคัญ อย่าใช้หลักฐานอันเป็นเท็จมาใส่ร้ายป้ายสีโจมตีนายกฯ และ รมต. เพราะประชาชนคอยจับตามองว่า ฝ่ายค้านจะแสดงละครอะไร ตบตาหลอกลวงประชาชนอีก เหมือนคราวที่แล้ว ซึ่งไม่มีเนื้อหาสาระอะไรที่น่าสนใจเลยสักนิดเดียว มีแต่น้ำลายท่วมสภา น่าเบื่อที่สุดในสายตาประชาชนที่ติดตามการอภิปราย”