“สุภรณ์” สนับสนุน “ไพบูลย์” ยื่นสภาลงมติว่าจะส่งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเชื่อมโยงสถาบันฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องมิบังควร และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งภายหลังได้
วันนี้ (10 ก.พ.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) ขอสนับสนุนและเห็นด้วยกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอญัตติด่วนขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติว่าจะส่งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังมีการเขียนญัตติอภิปรายไว้วางใจเชื่อมโยงสถาบันเบื้องสูง โดยตนเองไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะถือเป็นเรื่องที่มิบังควรที่จะนำสถาบันฯ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง อีกทั้งยังอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทั้งในสภาและนอกสภา
นอกจากนี้ แม้ฝ่ายค้านยืนยันไม่มีการถอนญัตติหรือแก้ไขญัตติที่เกี่ยวกับสถาบันฯ แต่กลับบอกว่าจะอภิปรายฯ ให้อยู่ในกรอบ แต่ตนเองยังไม่เชื่อและไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านจะทำตามที่พูด เพราะจากพฤติกรรมของพรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคมีพฤติกรรมสวนทางกับคำพูด โดยมักจะมีการพาดพิงสถาบันฯ ไม่เลิก และพรรคการเมืองนี้ก็อาจใช้เวทีของสภาอภิปรายทำการจาบจ้วง ก้าวล่วง บิดเบือนใส่ร้ายสถาบันฯ ได้
“การที่นายไพบูลย์เสนอญัตติด่วนขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ลงมติว่าจะส่งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมจึงมองว่าเป็นการทำถูกต้องที่สุดแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายหลังอีกด้วย เชื่อว่า ส.ส.ในสภาหลายคน หรือประชาชนก็คิดเช่นเดียวกัน”
ขณะเดียวกัน ขอยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ของนายไพบูลย์นั้น นายกรัฐมนตรีและ รมต.ไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของนายไพบูลย์ และสภาพิจารณาจะมีมติอย่างไรก็เป็นเรื่องของสภา ส่วนนายกฯ และ รมต.ที่ถูกยื่นไม่ไว้วางใจ พร้อมชี้แจงไม่มีความวิตกกังวล จะอภิปรายวันไหนเวลาใดก็พร้อมเสมอ เพราะเชื่อมั่นว่านโยบายทุกอย่างที่ได้บริหารบ้านเมืองนั้นทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนด้วยความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจโดยยึดหลักกฎหมาย จึงมั่นใจว่าไม่ได้มีการบริหารงานผิดพลาดอย่างแน่นอน ส่วนการจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้น ยืนยันว่าเป็นเรื่องของสภาที่จะมีมติเห็นชอบหรือไม่ จึงไม่เกี่ยวกับนายกฯ และ รมต.อย่างแน่นอน แต่นายไพบูลย์คงทำเพื่อความถูกต้องและชอบธรรมตามกฎหมาย เพราะเห็นว่าญัตติครั้งนี้อัปยศอดสู สะเทือนจิตใจประชาชนที่สุดตั้งแต่เคยมีการยื่นอภิปรายไว้ไม่วางใจที่เคยมีมาในอดีต
“ส่วนนายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนยืนยันแล้วว่าพร้อมที่จะรับมือกับการอภิปรายจากฝ่ายค้านในครั้งนี้อย่างมั่นใจเพราะทุกคนทำการบ้านมาอย่างดี จึงมีความพร้อมที่จะชี้แจง เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด เพียงแต่ฝ่ายค้าน อย่าได้ปั้นน้ำเป็นตัว สร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง เล่นละครตบตาหลอกลวงประชาชน เพื่อใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ และ รมต.ที่ถูกอภิปราย และอย่าได้ก้าวล่วงจาบจ้วงพูดพาดพิง หมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างเด็ดขาด ถ้ามีพฤติกรรมเช่นนั้นทีมกฎหมายของคณะทำงาน สสอ.ของตนพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดอย่างแน่นอน”