xs
xsm
sm
md
lg

“พัชรินทร์” เร่ง ครม.เคาะแนวทางติดตามผู้พ้นโทษคดีร้ายแรงทางเพศ ยกคดี “บักแหบ” เป็นอุทาหรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พัชรินทร์” ขอ ครม.เร่งเคาะแนวทางติดตามผู้พ้นโทษคดีร้ายแรงทางเพศ ให้นำคดี “บักแหบ” ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงเป็นอุทาหรณ์ อย่าให้เกิดเหตุซ้ำสอง

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งพิจารณามาตรการเฝ้าระวังบุคคลอันตรายกรณีผู้พ้นโทษในคดีที่มีความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำ ตามที่คณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไขปัญหาป้องกันการถูกข่มขืนกระทำชำเรา ได้รายงานผลการศึกษาต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญที่นายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือบักแหบ ก่ออาชญากรรมกระทำการข่มขืนฆ่าเด็กหญิงวัย 9 ขวบ และยังมีประวัติเคยต้องโทษจำคุกในคดีอนาจารเด็กชาย โดยเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 63 ก่อนที่จะมาก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรงดังกล่าวนั้น

“บ่อยครั้งที่เมื่อมีเหตุอาชญากรรมรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นในสังคม เราก็หวังว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ยังคงเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้นจึงต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมของผู้พ้นโทษ หากยังมีความเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมก็จำเป็นต้องมีแนวทางในการเฝ้าระวัง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ได้เคยเสนอให้มีระบบการติดตามความประพฤติของผู้ต้องขังคดีร้ายแรงทางเพศที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว โดยให้นำระบบลงทะเบียนผู้กระทำผิดคดีทางเพศมาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้ได้ผลในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย เป็นต้น แนวทางนี้รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ได้เคยเสนอไป จึงเป็นทางเลือกให้สังคมไทยปลอดภัยมากขึ้น” น.ส.พัชรินทร์กล่าว

นอกจากนี้ ตนยังสนับสนุนแนวทางของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ริเริ่มตั้งศูนย์ JSOC ขึ้น เพื่อเฝ้าระวังบุคคลอันตราย พร้อมทั้งจำแนกกลุ่มผู้พ้นโทษ ด้วยการขึ้นทะเบียนเป็นวอตช์ลิสต์กลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก ทว่า ยังมีข้อกังวลหลายเรื่องที่ต้องหาทางออกร่วมกัน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย ด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งตนย้ำเสมอว่า สิทธิในการอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัยของทุกคนนั้นควรต้องอยู่เหนือสิทธิของผู้ที่กระทำผิดซ้ำๆ ซึ่งอาจเป็นภัยอันตรายต่อสังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น