ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แม่เหยื่อเรียกร้องประหารชีวิต “ไอ้แหบ” เดนนรกฆ่าข่มขืนเด็กหญิง 9 ขวบ ขณะย่าบอกหลานฆาตกรโหดสั่งสอนไม่เชื่อฟัง แถมบอกอยากไปติดคุกอีก พบก่อคดีแล้ว 3 ครั้ง ด้านตำรวจ สภ.ปักธงชัย ยกเลิกไม่หิ้วตัว “ไอ้แสบ” ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผวาโดนรุมประชาทัณฑ์
วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีนายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ อายุ 24 ปี หรือ “ไอ้แหบ” อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 27 ม.7 บ้านมาบเชือก ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 9 ขวบ โดยอุ้มเหยื่อมากระทำชำเราที่ห้องน้ำในบ้านจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และที่บริเวณหลังบ้าน 1 ครั้ง ก่อนบีบคอเหยื่อจนเสียชีวิต แล้วเอาผ้าห่มห่อร่างนำไปทิ้งไว้ป่าละเมาะบริเวณทุ่งนาหลังบ้านห่างออกไปประมาณ 200 เมตร แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวในป่าทั้งคืนวันที่ 10 ก.พ. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังไล่ล่าค้นหาตัวทั้งภาคพื้นดินและอากาศตลาดทั้งวัน ก่อนจะสามารถจับตัวได้ในกระท่อมหลังบ้าน ขณะคนร้ายย้อนกลับมาบ้านในตอนเย็นวันที่ 11 ก.พ. เพราะหิวข้าวและเก็บเอาข้าวของเพื่อเตรียมหลบหนีต่อ เบื้องต้นไอ้แหบให้การรับสารภาพก่อเหตุจริง อ้างเมาสุราและมีอารมณ์ทางเพศ ก่อนถูกควบคุมมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
ทางด้านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนายอนุวัฒน์ หรือ “ไอ้แหบ” เพิ่มเติมพบว่า มีประวัติก่ออาชญากรรมมาหลายครั้ง คือ ในปี 2553 ก่อคดีข่มขืนที่ สภ.นาทม จ.นครพนม, ปี 2558 ก่อคดีกระทำชำเราเด็กชายอายุไม่เกิน 13 ปี ที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จำคุก 4 ปี และปี 2564 ล่าสุดมาก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา หลังพ้นโทษออกจากเรือนจำมาได้แค่ 3 เดือน
ล่าสุดวันนี้ นายอนุวัฒน์ หรือ “ไอ้แหบ” ยังถูกควบคุมตัวในห้องคุมขังที่ สภ.ปักธงชัย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าตัวมีอาการเครียดนอนไม่หลับ ยังไม่มีญาติมาเยี่ยม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย ได้ยกเลิกการนำตัว “ไอ้แหบ” ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุคับแคบ ยากต่อการควบคุมสถานการณ์ เกรงว่าชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาจนเกิดเหตุบานปลายได้
จากนั้นจะนำตัวส่งฟ้องศาลในเร็วๆ นี้ ฐานความผิด 3 ข้อหา คือ “ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิต, พรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่แม่ของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ขณะนี้พอทำใจได้บ้างแล้วหลังคนร้ายถูกจับกุมได้ แต่ไม่ขออโหสิกรรมให้ เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงโหดร้ายมากจนเด็กเสียชีวิต และอยากให้ได้รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว เพราะหากปล่อยออกมาก็ไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะกลับมาก่อเหตุอีก และอยากให้ลูกสาวเป็นเหยื่อรายสุดท้าย ส่วนกรณีตำรวจไม่นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นก็แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ แต่ขอให้ดำเนินคดีจนได้รับโทษขั้นสูงสุด
ทางด้านนางสมจิตร อายุ 77 ปี ย่าของผู้ต้องหา กล่าวว่า เสียใจมากที่หลานชายไปกระทำต่อเด็ก หลังจากเคยติดคุกมาแล้วแม้จะพร่ำสอนให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี แต่หลานชายไม่เชื่อฟัง ซ้ำยังบอกว่าอยากกลับไปติดคุกอีกเพราะออกมาก็ไม่มีงานทำ ไม่มีความสุข และขอให้หลานชายได้รับโทษตามผลกรรมที่ก่อไว้