ฝ่ายค้านรับมี “งูเห่า” ล็อกเป้ามี 2 ส.ส.จ้องโหวตซักฟอกสวนมติพรรค ห่วงยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการทำหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ กระพือไฟขัดแย้ง
วันนี้ (8 ก.พ.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว มีการแบ่งเวลาให้แต่ละพรรคการเมืองโดยยึดหลักพรรคใหญ่ที่มี ส.ส.มากได้เวลาอภิปราย แต่พรรคเล็กถ้ามีประเด็นดี มีข้อมูลมากก็ได้เวลาเยอะเช่นกัน
ส่วนเรื่องงูเห่าที่จะลงมติสวนมติพรรคนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะมีกระแสข่าวเรื่องงูเห่าในช่วงการอภิปรายไม่วางใจ แต่การมีข่าวออกมาทำให้คนที่จะเป็นงูเห่าต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะถูกสังคมจับจ้อง แม้ฝ่ายค้านยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการลงมติ แต่เชื่อว่าทุกคนรู้เป้าหมายดีว่าต้องลงมติอย่างไร จึงไม่หนักใจ แต่คนที่จะลงมติสวนมติพรรคคงมีปัญหาอยู่แค่ 1-2 คน คนกลุ่มนี้มีเป้าหมายปลายทางอยู่แล้ว เราจึงไม่นับรวมอยู่แล้ว เมื่อถามว่ากรอบเวลาที่ฝ่ายค้านได้ 42 ชั่วโมงจะสามารถอภิปรายจบในวันที่ 19 ก.พ.และลงมติวันที่ 20 ก.พ.ได้หรือไม่ นายสุทินตอบว่า คิดว่าคงเพียงพอ ถ้าไม่มีเจตนาที่ลากหรือประท้วงให้เกิดเหตุวุ่นวาย
นายสุทินยังกล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 9 ก.พ.เพื่อพิจารณาญัตติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการทำหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า ฝ่ายค้านจะชี้แจงเหตุผลเต็มที่เพื่อคัดค้านการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะไม่เห็นด้วยกับการส่งตีความ โดยหลักสามัญสำนึกและหลักประชาธิปไตยนั้น รัฐสภามีสิทธิแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้แก้แบบหลักลอย แต่เป็นแก้ที่ยึดโยงกับประชาชน ดังนั้น การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความจึงเป็นการขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องน่ากังวลทำให้การแก้รัฐธรรมนูญสะดุด ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ทุกอย่างจะมีความเสี่ยงมากขึ้น จะทำให้การแก้กติกาประเทศเกิดความไม่แน่นอน และจะเกิดปฏิกิริยาในสังคมที่น่าวิตก มีความแตกแยกตามมา