“วิรัช” เผยตั้งวอร์รูมร่วมทุกพรรครัฐบาลรับศึกซักฟอก ระบุวันอภิปรายคร่าวๆ 16-19 ก.พ. ขีดเส้นวันสุดท้ายปิดจ็อบแค่ 3-4 ทุ่ม และให้ซักฟอก รมต.เป็นรายคนให้จบ 8 ก.พ. วิปรัฐคุยเรื่อยตีความแก้ รธน.
วันนี้ (1 ก.พ.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านว่า ในวันที่ 2 ก.พ.จะได้รับคำตอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะพร้อมมาชี้แจงในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อใด เมื่อทราบแล้วจะได้มีการหารือร่วมกับนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาคนที่ 1 ที่ดูแลเรื่องนี้ รวมทั้งฝ่ายค้านด้วย ดังนั้นจึงต้องรอผลการประชุมว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งคราวๆ คือวันที่ 16-19 ก.พ.
นายวิรัชกล่าวว่า การอภิปรายในแต่ละวันจะข้ามเที่ยงคืนไปแล้วอาจจะถึงเวลา 02.00 น. 2 วันเพื่อจะให้ระยะเวลาชั่วโมงใกล้เคียงกัน ส่วนวันสุดท้ายจะต้องเผื่อเวลาไว้ โดยจะหยุดการอภิปรายประมาณเวลา 21.00 น. โดยฝ่ายค้านจะต้องสรุปให้เสร็จ และฝ่ายรัฐบาลต้องตอบให้เสร็จ อาจจะเลยไปเล็กน้อยถึง 22.00 น.ก็ไม่เป็นไร แต่จะต้องไม่เกินเวลา 24.00 น.เพื่อลงมติในวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้พยายามให้ฝ่ายค้านอภิปรายให้อยู่ใระยะเวลาที่กำหนดซึ่งต้องตกลงร่วมกัน
เมื่อถามถึงวอร์รูมรัฐบาลจะมีการตั้งเป็นพรรคร่วม หรือของแต่ละพรรค นายวิรัชกล่าวว่า คงจะต้องรวมกัน เพราะต้องใช้เวลาที่ต้องอยู่ในกรอบ ฉะนั้น รัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปรายก็จะรู้ว่ามีกรอบในการตอบ โดยใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ เช่น หากรัฐมนตรีคนหนึ่งถูกอภิปราย 2 ชั่วโมงแล้วจะตอบเสร็จหรือไม่ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมงขึ้น และต้องคุยกับฝ่ายค้านด้วยว่าในการอภิปรายจะต้องเสร็จเป็นคนๆ ไป ไม่ใช่อภิปรายย้อนกลับมาอีก อย่างนี้ไม่ได้ เพราะตัวรัฐมนตรีก็ต้องเตรียมการตอบโดยตอบทีเดียวให้ชัดเจน ซึ่งการตอบแต่ละครั้งของรัฐมนตรีถือว่ามีเวลาเพียงพอในการอธิบายข้อสงสัยให้รับทราบ
ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 9 ก.พ. เพื่อพิจารณาญัตติขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ว่าเรื่องนี้วิปรัฐบาลจะมีการประชุมกันในวันที่ 8 ก.พ. เวลา 11.00 น. เพื่อกำหนดว่าเรื่องนี้จะพิจารณาอย่างไร จะมีการส่งญัตติดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนที่นายไพบูลย์กังวลว่าหากไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจมีปัญหานั้นก็ต้องรอดูว่าวิปจะมีมติอย่างไร