วันนี้ (8 ก.พ.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงข้อเสนอเยียวยากลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19 หัวข้อผู้สูงอายุกับการเยียวยาว่า “วันนี้ขณะลงพื้นที่หลายเขตในกรุงเทพฯ มีชาวบ้านจำนวนมากได้ขอพูดคุยในประเด็นความเดือดร้อนต่างๆ
ที่น่าเห็นใจที่สุดคือ “ผู้สูงอายุ” เพราะเขาขึ้นทะเบียนไม่ได้ และตั้งคำถามง่ายๆ ฝากผมไปถึงผู้มีอำนาจว่า 'ทำไมรัฐบาลไม่ดูแลผู้สูงอายุด้วยการโอนเงินเยียวยาตรงเข้าบัญชีที่เขารับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่แล้วเดือนละ 600-1,000 บาท?'
เพราะข้อเท็จจริงแม้แต่เงินพันบาทนั้น ด้วยสภาพเศรษฐกิจจากโควิดตอนนี้ไม่เพียงพอแน่นอน และลูกหลานที่เคยมีงาน มีเงินดูแลพ่อแม่ ตอนนี้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ตกงานกันก็มาก แถมการเยียวยารูปแบบต่างๆ ก็ค่อนข้างล่าช้า
ส่วนการช่วยเหลือนั้น รอบนี้ทุกคนอยากให้เป็น 'เงินสด' ผมเองก็คิดอย่างนี้แต่แรก ถึงแม้ผมเข้าใจเจตนาที่ดีของรัฐบาลที่จะให้มีการใช้เงินผ่าน ‘เป๋าตัง’ เพื่อมุ่งสู่การเข้าระบบดิจิตัลทางการเงิน แต่เจตนาดีในกรณีนี้ 'ผิดจังหวะ' ครับ
ตอนทำ 'คนละครึ่ง' หรือ 'เราเที่ยวด้วยกัน' คือบริบทของการฟื้นฟูก่อนระบาดระลอกใหม่ แต่วันนี้คนเดือดร้อนแบบขาดเงินสดหนักมากจากโควิดรอบใหม่
ผู้กำหนดนโยบาย (รวมถึงตัวผมเอง) ไม่มีทางที่จะคิดแทนชาวบ้านได้ทั้งหมดว่าเขาเดือดร้อนที่ต้องใช้เงินอย่างไร วันนี้บางคนเพียงต้องการเงินสดเพื่อให้ลูกมีเงินติดไปโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถใช้เงินเยียวยาตามความต้องการนี้ได้
ผมทำนโยบายมาก็เยอะนะครับ บทเรียนที่สำคัญคือต้องเอาความต้องการของผู้เดือดร้อนเป็นที่ตั้ง เมื่อทำแล้วมีช่องโหว่ต้องรีบปรับทันที อย่าทำอะไรที่สลับซับซ้อนเกินไป สำคัญที่สุดคือ อย่าฟังแต่ข้าราชการและนักวิชาการ ต้องมีทีมลงไปฟังประชาชนคนเดินถนน ชาวบ้านร้านตลาดตัวจริง
เปรียบเทียบกับการออกแบบ App ก็ได้ครับ โปรแกรมเมอร์ที่เก่งที่สุดในโลกก็ยังต้องทดสอบกับผู้ใช้บริการจริงเพื่อตรวจเช็ค user experience เสร็จแล้วก็เอาข้อมูลมาปรับให้ App ใช้ง่ายขึ้นและตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น
ไม่สายเกินไปที่จะปรับแก้ครับ
เอาใจช่วยเสมอ ประชาชนรออยู่”