นายกฯ สั่ง ศธ.ตรวจสอบโรงเรียนเอกชน ทบทวนแบ่งคืนค่าเทอมค่าใช้จ่าย หลังรัฐบาลมีมาตรการเรียนออนไลน์ป้องกันโควิด ขอคนไทยอดทน เข้มแข็ง เสียสละ ช่วยกันรับผิดชอบ วันหน้าจะกลับสู่ปกติโดยเร็ว วอนอย่ากังวลวัคซีน มีแผนต่อเนื่องไว้แล้ว
วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประชุม ครม.มีหลายวาระทั้งเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา ส่วนใหญ่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลประชาชนอยู่แล้วในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา การจัดหาวัคซีน งบประมาณ และแผนงานต่อไปในเรื่องของการแก้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมต่างๆ ทั้งหมด นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำทุกมิติไปด้วยกัน เมื่อถามถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ได้มีการพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาซึ่งจะเห็นได้ว่ามีมาตรการต่างๆ ทยอยออกมาเรื่อยๆ ตามลำดับ และเก็บตกในส่วนที่ยังมีปัญหาอยู่ เราต้องทยอยดำเนินการไปเป็นระยะๆ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเก็บค่าเทอม ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับการที่เปิดให้มีการเรียนออนไลน์ โดยมีการเก็บค่าเทอมค่าใช้จ่ายเต็ม วันนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ตรวจสอบโรงเรียนเอกชนดังกล่าวแล้ว อะไรที่เกินความจำเป็นหากตรวจสอบพบจะแจ้งให้ลดคืนเงินต่อผู้ปกครองต่อไป เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าอะไรที่เป็นการเรียนออนไลน์ อะไรที่ไม่ต้องใช้ก็ไม่ควรเก็บ ค่าอาหาร ค่ารถ ค่าทัศนศึกษา ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต
“ขอให้ทุกคนช่วยกันอดทน เข้มแข็ง เสียสละ ช่วยกันรับผิดชอบในการป้องกันการแพร่ระบาด จำกัดพื้นที่ การตรวจสอบคัดกรองในพื้นที่เข้มงวดสูงสุด เราจำเป็นต้องผ่อนคลายหลายๆ มาตรการออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทุกคนที่อยู่ในห่วงโซ่ต่างๆ เหล่านั้นมีความระมัดระวังตัวเอง มันก็จะไม่เกิดอะไรมากขึ้น และวันหน้าทุกอย่างจะกลับไปสู่ปกติโดยเร็ว เรื่องวัคซีนเราก็ดำเนินการอยู่ต่อเนื่อง อย่ากังวลตรงนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้มาเท่าไหร่ อย่างไร และจะมีแผนการฉีด ถ้าคำนวณจากกำลังการผลิตทั่วโลกในขณะนี้วัคซีนมี 2 ประเภท คือ ได้รับการรับรอง กับไม่ได้รับการรับรอง 1 ปี ฉีดให้คนในโลก 60 เปอร์เซ็นต์ มันไม่พออยู่แล้ว มันต้องมีการทยอยดำเนินการโดยจัดลำดับความเร่งด่วน เตรียมการ ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมตรงนี้ไว้แล้ว” นายกฯ กล่าว