รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.ปรับวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2563 ของ ขสมก. จากวงเงินเดิม 1,775ล้านบาทเพิ่มเป็น 1,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141 ล้านบาท เหตุยกเลิกเช่าระบบE-Ticket จึงต้องจ้างพนักงานเพิ่ม
วันนี้ (26 ม.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ปรับวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณประจำปีงบประมาณ 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากวงเงินเดิม 1,775.653 ล้านบาทเพิ่มเป็น 1,917.380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.727 ล้านบาท และเห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2564 ของ ขสมก.จำนวน 2,338.266 ล้านบาท รวมเป็นภาระที่รัฐต้องรับชดเชยผลขาดทุนให้แก่ ขสมก.ทั้งสิ้น 2,479.993 ล้านบาท
สำหรับการปรับวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณประจำปีงบประมาณ 2563 ของ ขสมก. จากวงเงินเดิม 1,775.653 ล้านบาทเพิ่มเป็น 1,917.380 ล้านบาทนั้น เป็นการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายพนักงานในรายการค่าเงินเดือน ค่าจ้าง จำนวน 347.609 ล้านบาท แต่ได้ปรับลดค่าเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และระบบ Clearing House ลงจำนวน 205.882 ล้านบาท จึงเหลือต้องปรับวงเงินเพิ่มรวม 141.727 ล้านบาท ซึ่งเมื่อยกเลิกสัญญาเช่าระบบ E-Ticket ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น