วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่1/2564 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุมด้วย โดย กนช.รับทราบสถานการณ์น้ำในปัจจุบันจากแหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำจำนวน 48,558 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 ปริมาณน้ำใช้การ 24,456 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และได้มีการพิจารณาเห็นชอบ โครงการขนาดใหญ่ งบประมาณปี 65 ของ กทม.จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการก่อสร้างเขื่อน คลองบางไผ่จากบริเวณคลองพระยาราชมนตรี ถึงบริเวณสุดเขต กทม. 2. โครงการก่อสร้างเขื่อน พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบบริเวณประตูระบายน้ำมีนบุรี ถึงประตูระบายน้ำหนองจอก 3. โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองบางนา จากคลองเคล็ดถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา และ 4. โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองลาดพร้าว และเนื่องจากเป็นโครงการที่เป็นคลองซอยเพื่อการระบายน้ำในพื้นที่ กทม. ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ กทม.ใช้งบรายได้ของ กทม.เองในการดำเนินโครงการต่อไป
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า นอกจากนั้น กนช.ยังได้เห็นชอบให้ อบจ.ปัตตานี ดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำดิบ พร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟู และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของภาคใต้ต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม ขอกำชับ กนช.ให้กำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้วในวันนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และกรอบเวลาที่กำหนด พร้อมมอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ได้มีการเสนอขึ้นมานั้น โดยเฉพาะหน่วยงานหรือท้องถิ่นที่มีรายได้ควรจะต้องใช้งบประมาณของตนเองกลับมาพัฒนาท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้มากขึ้นด้วย
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานีดำเนินการโครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำดิบ ต.ตาเซะ อ.เมืองฯ จ.ยะลา อาคารโรงประปา มีกำลังการผลิต 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือประมาณ 28,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน สามารถผลิตประปาได้ปริมาณ 10.52 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อปี และระบบระบบท่อหลัก ออกแบบด้วยหลักการ “ระบบโครงข่ายท่อ” (Pipe Network) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่ต้องกระจายน้ำไปทุกทิศทางและป้องกันความเสียหายของการส่งน้ำอันเนื่องจากการก่อวินาศกรรม มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี (ปี 65-66) สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ หนองจิก แม่ลาน โคกโพธิ์ และเมืองปัตตานี ช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการเมืองต้นแบบเขตอุตสาหกรรมหนองจิก และโครงการท่าเรือน้ำลึก รวมทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทหารและแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ และที่สำคัญจะทำให้มีน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างพอเพียง เป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น