มติสภาไฟเขียว ทำแท้งเองได้หากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ อ้างเป็นทางออกให้หญิงไร้ทางเลือกในปัญหาชีวิต ถ้าอายุครรภ์ 12-30 สัปดาห์ ต้องปรึกษาแพทย์ เกินกว่านี้ห้าม เว้นเป็นอันตรายหรือเกิดจากข่มขืน
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภา มีระเบียบวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมีนายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาแล้วเสร็จ มีทั้งหมด 4 มาตรา โดยคณะ กมธ.แก้ไขมีสาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 3 ว่าด้วยกำหนดโทษสตรีที่ทำแท้งหรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง ขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 3 เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยกับการกำหนดโทษที่ กมธ.แก้ไข แต่เห็นด้วยกับร่างเดิมของรัฐบาลที่เสนอ ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนมาตรา 4 กมธ. แก้ไขว่า ถ้าเป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ถือว่าไม่ผิด ดังนี้ 1. หญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น 2. เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมาก หรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง 3. หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์ เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ
4. หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ และ 5. หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ซึ่ง ส.ส.หลายคนได้อภิปรายแสดงความเห็น โดย นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแก้ไขครั้งนี้อนุญาตให้สตรีมีครรภ์สามารถซื้อยามากิน เพื่อทำแท้งตัวเองได้ หากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์
นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นมุสลิม ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ภายหลังจากมีปฏิสนธิและทารกอยู่ในครรภ์ 120 วันแล้ว ถือว่าเด็กมีชีวิตแล้ว หากทำแท้งถือว่าบาปมหันต์ ยกเว้นจะต้องมีเหตุจำเป็น เช่น แพทย์วินิจฉัยแล้วว่ามีอันตรายถึงชีวิตของมารดา เป็นต้น แต่ถ้าเด็กได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ ว่าเกิดมาไม่สมประกอบหรือพิการ ตามหลักของอิสลามห้ามทำแท้ง เพราะเชื่อว่าเกิดมาแล้ว สังคมจะไม่ทอดทิ้งและช่วยเหลือกัน
ด้าน นายสันติ ชี้แจงว่า มาตรา 4 ยกเว้น (5) ทาง กมธ.บัญญัติขึ้นเพื่อให้ทางออกกับสตรีที่ประสบปัญหาในชีวิต เช่น พ่อของลูกเกิดเสียชีวิต หรือปฏิเสธการเป็นพ่อใน 20 สัปดาห์ ทั้งนี้ ยืนยันว่า กมธ.มีเจตนารมณ์ให้หญิงมีทางออกเมื่อประสบปัญหาในชีวิต และให้ได้รับคำแนะนำ จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะตั้งครรภ์ต่อไป หรือจะยุติการตั้งครรภ์ ส่วนที่กำหนดไว้ ไม่เกิน 20 สัปดาห์ เพราะถ้าเกิน 20 สัปดาห์ เด็กดิ้นแล้ว มีชีวิตแล้ว
นายจรัญ ภักดีธนากุล ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า ขณะที่ทำกฎหมายนั้น ตนได้รับโจทย์มาว่าเราจะมีทางเลือกอย่างไรให้กับผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิตที่ยากลำบากแสนสาหัสอย่างที่หาทางออกไม่ได้ วัตถุประสงค์ในการทำกฎหมายนี้ ไม่ได้ต้องการผลักให้ผู้หญิงไปสู่การทำแท้ง แต่ต้องการหาทางออกที่เหมาะสมที่พอรับได้กับสังคมไทย ซึ่งมีความคิดเห็นอย่างแตกต่าง ทั้งนี้ กมธ.คำนึงถึงการมีชีวิตรอดของเด็กด้วย
จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา 4 เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับที่คณะ กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 273 ต่อ 47 งดออกเสียง 19 เสียง และลงมติวาระ 3 ด้วยคะแนน 276 ต่อ 8 งดออกเสียง 54 เสียง
อย่างไรก็ตาม น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธาน กมธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังสภาผ่านร่างกฎหมาย ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าจะไปซื้อยารับประทานเองเพื่อทำแท้งสามารถทำได้ และไม่ต้องทำโดยแพทย์ แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 ถึง 20 สัปดาห์ ถ้าต้องการยุติการตั้งครรภ์ต้องเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เพื่อให้เจ้าตัวเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะยุติการตั้งครรภ์หรือไม่
น.ส.ธนิกานต์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้าเป็นกรณีอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไป ไม่สามารถทำแท้งตามกฎหมายนี้ได้ เพราะทางการแพทย์ถือว่าเด็กมีสภาพเป็นตัวบุคคลแล้ว มีน้ำหนักเกิน 500 กรัม เด็กสามารถกระดิกมือ กระดิกเท้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นกรณีที่แพทย์วินิจฉัยเห็นแล้วว่าการตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อมารดา หรือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อเด็กที่จะคลอดออกมา หรือพิสูจน์แล้วว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการกระทำความผิดทางเพศ หรือการข่มขืน ไม่ว่าจะมีอายุครรภ์กี่สัปดาห์ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้