รมว.ท่องเที่ยวฯ เผยเตรียมเสนอตั้ง “กองทุนท่องเที่ยว” เยียวยาผู้ประกอบการ พร้อมชงมาตรการจ่ายคนละครึ่ง ช่วยเหลือแรงงาน 4 แสนคน
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติครั้งที่ 1/2564 ถึงมาตรการการช่วยเหลือการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในการประชุมวันนี้เป็นเรื่องนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติและเรื่องกองทุนการท่องเที่ยวเพื่อรองรับกรณีที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยว่าจะมีการดูแลอย่างไรหากประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยในประเทศไทย ซึ่งคล้ายกับภาษีซาโยนาระของประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวว่าเมื่อเข้ามาในประเทศไทยและประสบอุบัติเหตุ บริษัทประกันที่นักท่องเที่ยวทำไว้จะต้องดูแลตามขั้นตอนจนกระทั่งกลับประเทศ
เมื่อถามว่า ค่าใช้จ่ายการทำประกันฝ่ายใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ นายพิพัฒน์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต้องเป็นผู้จ่าย โดยประเมินว่านักท่องเที่ยว 1 คนจะต้องจ่าย 10 ดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและกรณีเสียชีวิต ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬาจะเก็บเงินส่วนนี้เข้ากองทุน และที่ผ่านมาเราก็อยากมีกองทุนของตัวเองเพื่อใช้เยียวยาผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ล่าสุดรัฐบาลได้ให้นโยบายมาแล้วโดยจะนำเข้าที่ประชุมครั้งนี้ด้วย และหากที่ประชุมเห็นชอบจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เมื่อถามว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างไรบ้าง นายพิพัฒน์กล่าวว่า กระทรวงได้ประชุมหารือกับสมาคมต่างๆ เช่น สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม สมาคมการจัดประชุม ได้ข้อสรุปว่าจะมีการผ่อนผันดอกเบี้ยเงินต้น การเข้าถึงซอฟต์โลน และการช่วยเหลือแรงงานในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะในภาคส่วนโรงแรม หลังจากนี้จะไปหารือกับกระทรวงแรงงานเพื่อช่วยเหลือแรงงานประมาณ 4 แสนคน อาจจะทำในลักษณะการแบ่งจ่ายคนละครึ่ง รัฐบาลจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ประกอบการจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องไม่ปลดพนักงานออก โดยจะเยียวยาเป็นเวลา 2 เดือนคือเดือน ก.พ. และ มี.ค.
เมื่อถามว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ติดตามการช่วยเหลือสายการบินที่เคยเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องซอฟต์โลนหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ก็สอบถามไปยังกระทรวงการคลัง รวมถึงยังมีการหารือใน ครม.หลายครั้ง คาดว่าจะเยียวยาได้ทันก่อนที่จะเริ่มมีการเดินทาง ขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยและใครทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนที่นายกฯ พูดไว้