“อนุทิน” ไม่ขัดถ้าท้องถิ่นมีงบประมาณนำเข้าวัคซีน แต่ต้องนำมาขึ้นทะเบียนให้มีการอนุมัติก่อน ระบุ คนติดเชื้อจากบ่อนพนัน ทุกอย่างตามกฎหมาย การจะไม่ให้การรักษานั้น เป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรเราก็ต้องรักษา
วันนี้ (12 ม.ค.) เวลา 08.21 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีข้อห่วงใยเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันตลอดถึงความพร้อมทั้งแพทย์ เวชภัณฑ์ และโรงพยาบาล ในการดูแลสถานการณ์การระบาดรอบสอง ขอให้ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลการลักลอบเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณีบุคคลที่ไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วติดโควิด-19 แล้วเข้ามาในประเทศจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาเองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ มีระบุไว้ชัดเจน ตามมาตรา 40, 41 และ 42 ซึ่งต้องบังคับใช้กับรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ประกอบ ที่ระบุว่า บุคคลย่อมมีสิทธิ์ได้รับการบริการสาธารณสุขของรัฐ ซึ่งเราต้องทำทุกอย่างตามกฎหมายการจะไม่ให้การรักษานั้น เป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรเราก็ต้องรักษา
เมื่อถามต่อกรณีท้องถิ่นจะซื้อวัคซีนมาฉีดให้คนในท้องที่เองในจังหวัดกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการที่จะนำวัคซีนมาให้บริการประชาชนโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าท้องถิ่นมีงบประมาณที่จะดูแลประชาชน ซึ่งวัคซีนที่ใช้อย่างไรก็ต้องนำมาขึ้นทะเบียนให้มีการอนุมัติก่อน แต่ถ้าให้ดีที่สุดหากท้องถิ่นต้องการจะแบ่งเบาภาระของรัฐบาลด้วยงบประมาณของรัฐบาลก็ให้นำรายชื่อมาตรวจกัน ถือว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือนี้คือ หลักการทั่วไป แต่ยังไม่ลงรายละเอียดเป็นการร่วมกันทำงานเพราะอย่างไรก็เป็นงบประมาณแผ่นดิน แล้วแต่ว่าจะดึงมาจากส่วนไหน
เมื่อถามว่า โรงพยาบาลเอกชนต้องการจะสั่งวัคซีนเข้ามาสำหรับบุคคลที่มีศักยภาพในการจ่าย นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นนโยบายที่ตนให้ไว้นานแล้ว ไม่มีปัญหา วัคซีนจากต่างประเทศทุกยี่ห้อสามารถนำมาขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทยได้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้ขอให้เขามาขึ้นทะเบียนหลายเดือนแล้ว ซึ่งหลายบริษัทก็ระบุว่าจะไม่เข้ามาขึ้นทะเบียนจนกว่ารัฐบาลจะยืนยันว่าจะซื้อของเขาในจำนวนเท่าไหร่ ตนจึงบอกไปว่าขอให้มากขึ้นไว้ก่อนเพื่อเป็นประโยชน์ เพราะโรงพยาบาลเอกชนเขาสามารถนำมาให้กับผู้ที่มีฐานะที่สามารถจะฉีดได้ ทั้งนี้โดยหลักการเราเปิดกว้างและขอให้ปลอดภัยและให้อธิบายได้ทุกอย่าง
เมื่อถามอีกว่าได้พูดคุยกับ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ถึงการสื่อสารใน ศบค.ที่มีปัญหาแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่ตรงกันตรงไหน ไม่มีปัญหาอะไรเลย นพ.ทวีศิลป์ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมโดยตรง บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องไปพูดคุย เพราะเวลาเขาทำหน้าที่ เขาก็พูดไป แต่ถ้ามีกระแสขึ้นมาเราก็ต้องดู ถ้าหากว่ากันตามตัวอักษรทุกตัวก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่พอเราเห็นเราก็ต้องบอกเขาว่าไม่ควรจะใช้กฎเกณฑ์แบบนี้เราต้องเอาความสบายใจของประชาชนเป็นตัวตั้งก่อน ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยเมื่อวานก็ยังพูดคุยตบไหล่กัน ต่างคนต่างให้กำลังใจกัน”