ศปถ.สรุปยอด 7 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 3,333 ครั้ง ดับรวม 392 ราย เจ็บ 3,326 คน “เชียงราย” ตายสะสมสูงสุด ยอดผู้เสียชีวิตปีใหม่ 64 สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 5 เตรียมวางมาตรการดูแลอุบัติเหตุทั้งปี “นิพนธ์” มท.2 ยังไม่ได้รับรายงานผู้ว่าฯ กาญจนบุรีเผยคนติดเชื้อจากบ่อน กทม.
วันนี้ (5 ม.ค.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 หรือ ศปถ. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 4 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 265 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 22 ราย ผู้บาดเจ็บ 271 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 32.45 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 25.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.55 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 63.02 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 45.28 ถนนใน อบต.-หมู่บ้าน ร้อยละ 27.55 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 28.68 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 32.76 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,969 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,996 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 477,652 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 111,030 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 29,963 ราย ไม่มีใบขับขี่ 27,454 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด สุราษฎร์ธานี 12 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ลพบุรี 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด สุราษฎร์ธานี 13 คน
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค. 63 - 4 ม.ค. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,333 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 392 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,326 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 7 จังหวัด ได้แก่ นครนายก นราธิวาส น่าน แม่ฮ่องสอน ระนอง อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด เชียงใหม่ 115 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด เชียงราย 18 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด เชียงใหม่ 117 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 33.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.06 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 59.33 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.09 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 82.54 รถปิคอัพ ร้อยละ 6.19 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 65.77 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 27.45
นายนิพนธ์กล่าวว่า จากการสรุปตัวเลขในช่วง 7 วันอันตราย พบจำนวนผู้ชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากกว่าช่วงปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว มียอดผู้เสียชีวิตสูงกว่าเดิม 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 โดยสาเหตุของการเสียชีวิตยังเป็นเรื่องการขับรถเร็ว โดยเฉพาะเมื่อถนนมีรถน้อยลงพบว่ามีการใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น เสียชีวิตในที่เกิดเหตุมากขึ้น นอกจากนี้ เป็นการเสียชีวิตจากกรณีเมาแล้วขับสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นใกล้เคียยงพื้นที่ที่มีการสังสรรค์ช่วงปีใหม่และใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้จะมีการนำยอดของผู้เสียชีวิตจากช่วง 7 วันอันตรายไปปรับและหาแนวทางเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิต เพื่อนำมาตรการมาใช้ตลอดทั้งปี ส่วนจะใช้ยาแรงในช่วงสงกรานต์นี้หรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลกำหนดวันหยุดเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีวันหยุดยาวและคนออกไปเที่ยวก็มักจะเกิดอุบัติเหตุดังนั้นต้องมีมาตรการมาดูแลตลอดทั้งปี รวมทั้งจะต้องมีการบูรณาการร่วมกันระหว่าวศูนย์โควิด-19 และด่านความมั่นคง
เมื่อถามว่ากรณีผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเปิดเผยถึงจำนวนประชาชนในจังหวัดมีการติดโควิด-19 จากบ่อนในพื้นที่ กทม. นายนิพนธ์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวนี้ แต่ศูนย์โควิด-19 จะดูแลทุกจังหวัด