นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปี 2564 ว่า ตนมองว่าการเมืองจะมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการเมืองในระบบจะมีการแข่งขัน การต่อสู้กันสูงมาก ขณะที่การเมืองนอกระบบจะลดระดับลงมา เนื่องจากปัจจัยดังนี้ 1. กิจกรรมในระบบการเลือกตั้งในช่วง 12 เดือนจากนี้ จะครอบคลุมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลทั่วประเทศ 2. การเลือกผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งจะมีสีสันอย่างมากสำหรับการเมือง โดยประชาชนจะตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ซึ่งจะดูว่าเป็นใคร พรรคการเมืองไหนส่งหรือไม่ส่ง หรือเป็นผู้สนับสนุน รวมไปถึงนโยบายต้องจับต้องได้ และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ ปัญหาฝุ่น P.M. 2.5 น้ำท่วม รถติด ที่สำคัญจะต้องไปเสริมกับนโยบายของรัฐบาลในการต่อยอดโครงการระดับชาติ เช่น ระบบการขนส่งมวลชน นอกจากนี้จะต้องมีนโยบายที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่จะครอบคลุมทั่วประเทศ 4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
นายรงค์กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) เห็นว่าเรื่อง ส.ส.ร.มีความสำคัญอย่างมากในการเมืองปี 64 เพราะจากนี้หลังเดือน มี.ค. 64 นับไปประมาณ 200 วันตามรัฐธรรมนูญที่จะมีการแก้ไขนั้น ตรงนี้จะเป็นโฟกัสทางการเมือง เพราะประชาธิปไตยเราเดินหน้ามาตั้งแต่การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 ซึ่ง ส.ส.ร.จะเป็นจุดสำคัญที่แต่ละจังหวัดจะต้องสรรหาตัวบุคคลเข้ามาเป็น ส.ส.ร. ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก
นายรงค์กล่าวว่า ทั้ง 4 ปัจจัยนี้ตนเชื่อว่าจะลดกระแสการเมืองภาคพลเมืองลง จากที่ได้เรียกร้องใน 3 ข้อ คือ 1. นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งท่านก็ไม่ลาออกอยู่แล้วเพราะท่านมาตามรัฐธรรมนูญปี 60 จึงถือว่ามีความชอบธรรม 2. แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งตอนนี้รัฐสภาก็แก้ให้ความข้อเรียกร้องแล้ว และ 3. การปฏิรูปสถาบันฯ ในเรื่องนี้ต้องทำด้วยความรัก ความศรัทธา ไม่ใช่ความเกลียดชัง เพราะอันนั้นคือการปฏิวัติไม่ใช่การปฏิรูป ซึ่งเราจะเห็นว่าช่วงปลายปี 63 คนที่รักและหวงสถาบันใส่เสื้อเหลืองกันค่อนประเทศ และสิ่งที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้เห็นได้จากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ผ่านมา พรรคหรือกลุ่มที่สนับสนุนในเรื่องนี้แพ้หมด ตรงนี้ถือเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์แล้ว
นายรงค์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำจากนี้หลังปีใหม่ 64 โดยด่วน คือ การเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 เพราะตอนนี้ถือเป็นภัยพิบัติที่เป็นกันทั่วโลก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะต้องตอบคำถามทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และสื่อ เกี่ยวกับมาตรการในการฟื้นฟู การเยียวยา การแก้ปัญหาในระยะสั้น ระยะยาวว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง จะต้องมีการออกมาตรการใหม่หรือไม่ รวมถึงการเร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเจอเรื่องสงครามการค้าโลกที่ออกฤทธิ์มาตลอด 2-3 ปี แล้วมาเจอโควิด-19 ซ้ำเข้าไปอีก ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลต้องออกมาตรการฟื้นฟูให้ตรงเป้า อาทิ โครงการ “คนละครึ่ง” ที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก เป็นต้น
“ภาพรวมปี 64 ผมมั่นใจว่ารัฐบาลจะผ่านไปได้ด้วยผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ท่านมีความเข้มแข็ง มีภาวะความเป็นผู้นำสูงในภาวะที่บ้านเมืองมีวิกฤตแบบนี้ เหมือนกับที่ประเทศอังกฤษมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อนายวินสตัน เชอร์ชิล เลยทีเดียว” นายรงค์กล่าว