ศบค.เตือนยกระดับ 7 วันยอดติดเชื้อไม่ลด สธ.ประเมิน 3 รูปแบบ ไม่ป้องกันพุ่ง 2 หมื่นต่อวัน

ศบค.พบติดเชื้อยังสูง 155 ราย เสียชีวิต 1  ราย เตือน 7 วันยอดไม่ลดยกระดับมาตรการ สธ.ประเมินสถานการณ์ 3 รูปแบบ ชี้ถ้าไม่ป้องกัน กลาง ม.ค. 64 พุ่งเกือบ 2 หมื่นต่อวัน มท.สั่งแยกย่อยแบ่งพื้นที่ระดับอำเภอ-ตำบล ตั้งชุดจับกุมพวกมั่วสุมทำผิด กม.

วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 155 ราย ในจำนวนนี้มาจากสถานกักตัวของรัฐ 10 ราย ติดเชื้อในประเทศ 134 ราย ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 11 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,440 ราย หายป่วยสะสม 4,180 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 2,195 ราย ขณะนี้มีกระจายตัวของผู้ติดเชื้ออยู่ใน 45 จังหวัด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็นชายอายุ 45 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ขาดการกินยาต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มี.ค. และมีโรคหัวใจขาดเลือด ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีการพบเชื้อและมีความเสี่ยงสูง โดยพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. จากนั้นเช้าวันที่ 28 ธ.ค.มีอาการหอบเหนื่อยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล และหัวใจหยุดเต้นระหว่างทาง แพทย์พยายามช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจ 30 นาที แต่ไม่ได้สามารถช่วยได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต ทำให้มียอดเสียชีวิตสะสม 61 ราย ส่วนสถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 81,669,521 ราย เสียชีวิต 1,781,442 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อใป 45 จังหวัดนั้นถือว่าเป็นการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เพราะดูตัวเลขวันที่ 18-20 ธ.ค.มีการกระจายไป 6 จังหวัด วันที่ 21-23 ธ.ค.กระจายไป 26 จังหวัด วันที่ 24-26 ธ.ค.กระจายไป 37 จังหวัด วันที่ 27-29 ธ.ค.กระจายไป 45 จังหวัด ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงได้จัดทำฉากทัศน์การระบาดรอบใหม่ ประเมินสถานการณ์เป็น 3 รูปแบบ คือ 1. กรณีไม่มีมาตรการใดๆ เลย จะทำให้ช่วงวันที่ 14 ม.ค. 64 จะมีผู้ติดเชื้อถึงวันละ 18,000 คน 2.มีมาตรการเฝ้าระวังกันแบบกลางๆ ซึ่งใช้ในปัจจุบัน จะทำให้ช่วงกลางเดือน ม.ค. 64 มีผู้ติดเชื้อวันละ 4,000 ราย และปลายเดือน ม.ค. 64 มีผู้ติดเชื้ออยู่วันละ 8,000 คน และ 3. มีมาตรการเข้มข้น ซึ่งเราเคยใช้ในการระบาดรอบแรก จะมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 1,000 รายต่อวัน ดังนั้น เราจึงไม่อยากเห็นตัวเลขอย่างในรูปแบบแรก จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนเพื่อไม่ให้มีปริมาณผู้ติดเชื้อมากเหมือนในต่างประเทศ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันว่าการแพร่ระบาดในประเทศแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ การติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคล มีทั้งที่ทราบว่าตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยง อยู่ในกิจกรรมเสี่ยง ไม่ทราบและไม่ระวังว่าผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ การติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน มีสาเหตุมาจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งกิจกรรมที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง เช่น งานเลี้ยงสรรค์ การประชุม หรือกิจกรรมที่ลักลอบดำเนินการ เช่น การพนัน การมั่วสุม ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทยเหลือเกิน ซึ่งตัวเลขที่ติดเชื้อกันเยอะๆ เพราะจุดนี้ อย่างไรก็ตาม เรายังจะใช้มาตรการป้องกันเดิม คือ การจัดแบ่งเป็น 4 พื้นที่ โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการแบ่งพื้นที่เพื่อให้ประกาศออกมาในวันที่ 30 ธ.ค. พร้อมสั่งการให้แบ่งพื้นที่ในระดับอำเภอ ตำบล เพราะบางจังหวัดไม่ได้มีการระบาดทั้งจังหวัด เช่น จ.ระยอง มีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดเฉพาะ อ.เมืองฯ ที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก อำเภออื่นก็ไม่จำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อให้แฟร์กับจังหวัดของเขา รวมถึงจังหวัดที่ติดกันจะได้ไม่ต้องเป็นพื้นที่ควบคุม ขณะเดียวกัน การแยกย่ายอำเภอและตำบลยังทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต โดยทาง ศบค.มท. ศบค.สธ. และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะประเมินร่วมกันในการกำหนดพื้นที่ภายในจังหวัดและให้ประกาศให้ประชาชนรับทราบภายใน 1-2 วันนี้ สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องมีชุดกำกับดูแลสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงทั้งหลาย เร่งค้นหาจับกุมบุคคลที่มีการมั่วสุมผิดกฎหมาย หากใครรู้เบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมได้ทันที

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า นับจากนี้ไปอีก 7 วัน ศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. (ศปก.ศบค.) ขอให้ประชาชนร่วมมืออย่างเข้มข้น เพราะ ศปก.ศบค.จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น ศปก.ศบค.จะพิจารณาขออนุมัติ ศบค.ชุดใหญ่ในการปรับปรุงมาตรการ เพราะถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ เอกชนย่อหย่อน เราก็ต้องทบทวนมาตรการทั้งหมด แต่ถ้าร่วมมือกันดีก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใดๆ

เมื่อถามว่า อีกไม่กี่วันจะถึงปีใหม่ หลายคนยังสับสนจะเดินทางได้หรือไม่ และจัดกิจกรรมได้มากน้อยแค่ไหน นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขณะนี้มีบางจังหวัดได้มีการประกาศปิดบางสถานที่ จนต้องปรับเปลี่ยนมาตรการ เช่น กทม. ส่วนจังหวัดอื่นที่มีการติดเชื้อทั้ง 45 วัน จะต้องติดตามประกาศของทางผู้ว่าราชการจังหวัด ปีใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะมีตัวเลขติดเชื้อกันสองถึงสามหลัก เราจำเป็นต้องปรับตัวเองมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรขณะนี้ไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์อย่างแน่นอนเพราะจะกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกเว้นเฉพาะบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ดังนั้น เราจึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ฉลองกันภายในครอบครัว