โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ย้ำ กระทรวงพาณิชย์ต้องควบคุมราคาหน้ากากให้ได้ ห้ามขายเกินราคาที่กำหนด แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องควบคุม พบเบาะแสแจ้ง 1569
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ควบคุมราคาหน้ากากอนามัยที่มีขายอยู่ในขณะนี้ โดยหน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศไทยให้จำหน่ายในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท และขอให้ผู้ประกอบการทุกประเภททำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการค้าขายออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์จะต้องควบคุมร้านค้า หรือผู้โพสต์ขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มตนเอง ให้ปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ขายเกินราคาหรือกระทำความผิด
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน สอดส่องดูแลให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และต้องไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชน พร้อมกับมอบกรมการค้าภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ทั้งป้องกันและป้องปรามการกระทำความผิดการจำหน่ายเกินราคา หรือกักตุน โดยหากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และเกิดการเอาเปรียบประชาชน
นายอนุชา กล่าวว่า “หากประชาชนพบร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา หรือถูกเอาเปรียบจากร้านค้าที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย สามารถโทรแจ้งกรมการค้าภายในได้ที่ สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยระบุชื่อร้าน พิกัดร้าน และราคาที่จำหน่าย เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบว่ามีการจำหน่ายเกินราคาจริงก็จะถูกสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป และหากพบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาบนช่องทางออนไลน์ ให้บันทึกภาพหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน แล้วแจ้งไปที่ Facebook Fanpage : กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ. หรือ Line: @wtf5716c
ทั้งนี้ ความผิดกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับ 10,000 บาท และสำหรับกรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”