xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ถกกระชับสัมพันธ์ไทย-ศรีลังกา หนุนความร่วมมือเชื่อมตะวันออกเฉียงใต้-เอเชียใต้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประยุทธ์” ต้อนรับทูตศรีลังกา ย้ำการกระชับความสัมพันธ์สองประเทศ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้-เอเชียใต้ให้ครอบคลุมทุกมิติ

วันนี้ (28 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสมันตา เค ชยสุริยะ (H.E. Mrs. Samantha K. Jayasuriya) เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับศรีลังกาในมิติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ยินดีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานกว่า 65 ปีได้ดำเนินต่อไป โดยไทยพร้อมกระชับความร่วมมือกับศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไทยและศรีลังกาสามารถเป็นประตูสู่ภูมิภาคของกันและกันได้ ทั้งนี้ ไทยพร้อมร่วมมือกับศรีลังกาและประเทศอื่นๆ อย่างแข็งขันในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งขอขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่ได้มอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากเมืองอนุราธปุระ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

ด้านเอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานในตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งเป็นช่วงเวลาที่ดีได้รับประสบการณ์และความทรงจำที่ดีเสมอมา ชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ตลอดจนเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะในมิติด้านศาสนา วัฒนธรรม และความร่วมมือในภูมิภาค นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เชื่อมั่นในศักยภาพด้านสาธารณสุขของไทยที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับ ทั้งนี้ ศรีลังกาพร้อมให้ความร่วมมือและจะนำประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการสถานการณ์ของไทยไปประยุกต์ใช้ต่อไป อีกทั้งยินดีกับความสำเร็จจากความพยายามของไทยในการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งสามารถลงนามได้เป็นผลสำเร็จในปีนี้

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือให้ครอบคลุมในหลายสาขา ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนทวิภาคีระหว่างกันผ่านการสนับสนุนการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา รวมถึงกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ด้านวิชาการ ที่จะเน้นการพัฒนาชนบท เกษตรกรรม ประมง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพระราชดำริฝนหลวง และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งไทยยินดีที่จะถ่ายทอด แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นและยืนยันที่จะสนับสนุนศรีลังกาในฐานะประธานความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) เพื่อเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับเอเชียใต้ให้ครอบคลุมทุกมิติยิ่งขึ้น โดยไทยยินดีจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BIMSTEC ครั้งที่ 5 เพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของศรีลังกา












กำลังโหลดความคิดเห็น