“สุภรณ์” สวน “อนุสรณ์” ปากเสีย-วาทะน้ำเน่า-สมองทึบ-ปัญญาอ่อน ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด ยันนายกฯ ไม่เคยกล่าวโทษใครในการแก้ปัญหาโควิด เพียงแต่เตือนสตินักการเมืองอย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาตีกินทางการเมือง
วันนี้ (27 ธ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่าคำพูดนายกฯ ที่วอนนักการเมืองอย่าฉวยโอกาสใช้โควิด-19 เล่นเกมการเมืองเป็นการโยนบาป โดยระบุว่าส่วนตัวมองว่าที่นายกฯ พูดเช่นนี้พูดถูกที่สุดแล้ว โดยเฉพาะนักการเมืองฝ่ายค้านที่นอกจากไม่เคยมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติในสถานการณ์เช่นนี้ กลับนำเอาโอกาสนี้มาหากินทางการเมืองให้ตัวเองดูดี และให้ประชาชนสับสนเข้าใจผิดในตัวนายกฯ และรัฐบาล ทั้งที่เข้าใจดีแต่เสแสร้งไม่เข้าใจ ปั้นน้ำเป็นตัว ใส่ความเป็นเท็จเพื่อให้ประชาชนเข้าใจในคำพูดของนายกฯ ในทางผิด ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง
นายสุภรณ์ยืนยันว่า นายกฯ ไม่เคยกล่าวโทษใคร เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือกับคนทุกภาคส่วน และขณะนี้นายกฯ และรัฐบาลได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อยังยั้งการระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมั่นใจว่านายกฯ และรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วจนเป็นที่ยอมรับ
“ผมมองเห็นว่านักการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายค้าน และนายอนุสรณ์ ที่ไม่เคยช่วยอะไรประเทศชาติเลย มีแต่ใช้ปากเสียพูดมากไปวันๆ พูดแต่เรื่องที่ไม่มีสาระ น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง หาประโยชน์อะไรไม่ได้ หวังดิสเครดิตนายกฯ และรัฐบาล คนเช่นนี้มักจะมีสมองทึบ ปัญญานิ่ม พูดอะไรไม่เป็นความจริงเลยสักนิด ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนในตัวนายกฯ และอาจทำให้บ้านเมืองเสียหาย สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายค้านก็ควรคิดทบทวนให้ดีว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ และหากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ตนเองมองว่าระวังประชาชนจะออกมาขับไล่พรรคฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน ผมเคยย้ำหลายครั้งว่าถ้ายิ่งปล่อยให้นายอนุสรณ์ออกมาพูดยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยยิ่งตกต่ำ และก็เป็นจริง ดูได้จากการแตกแยกทยอยลาออกของแกนนำในพรรค และผลการเลือกตั้งท้องถิ่นนายก อบจ.เมื่อ 20 ธันวาคมที่ผ่าน แพ้เกือบราบคาบไม่เข้าเป้าที่ตั้งไว้ แถมพอคนของตัวเองแพ้แล้ว แกนนำและบรรดา ส.ส.ก็ทะเลาะกันในพรรคจนวุ่นวายไปหมด นี่คือความเสื่อมของพรรคเพื่อไทย ที่ยังปล่อยนายอนุสรณ์ คนปากตลาดออกมาแสดงความโง่อ่อนเขลาเบาปัญญา ในที่สุดอาจทำให้พรรคเพื่อไทยถึงจุดล่มสลายไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมนักการเมืองปากตลาด พูดจ้อๆ รายวัน และพูดจาเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หวังตีกินทางการเมือง ซึ่งประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ตามนายอนุสรณ์และพรรคเพื่อไทยหรอกครับ” นายสุภรณ์กล่าว