ศาลนัดอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มาไกล่เกลี่ย “ม.ล.กรกิสวัฒน์” ด้วยตัวเอง ในวันที่ 16 ก.พ. 64 หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาตั้งแต่ 8 ม.ค. 63 ให้มีความผิดฐานหมิ่นประมาททางเฟซบุ๊ก จำคุก 6 เดือน แต่รอลงอาญา ปรับ 3 หมื่นบาท ตีพิมพ์คำพิพากษาย่อใน นสพ.4 ฉบับ และ 4 เว็บไซต์ แต่ผ่านมาเกือบปียังไม่ดำเนินการให้ครบถ้วน
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพลังงานและทรัพยากร มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก คุยกับหม่อมกร ว่า “สืบเนื่องจากการไปศาลเมื่อเช้าวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ตามที่ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ได้ฟ้อง นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2563 โดยศาลได้พิเคราะห์การต่อสู้ของจำเลยปรากฏตามคำพิพากษาหน้า 9-10 ว่า
“จำเลยนำสืบโดยเบิกความว่า จำเลยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีหน้าที่รวบรวมข่าวสารเกี่ยวกับกรณีที่มีผู้บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานเชื้อเพลิงเพื่อจะได้นำมาแก้ไขและชี้แจงข้อเท็จจริงทางวิชาการแก่ประชาชน จำเลยได้อ่านข้อความที่มีการแต่งเติมด้านล่างรูปภาพและข้อความตามเอกสารหมาย จ.10 (ที่มีข้อความหมิ่นประมาท) แล้วเห็นว่าผู้เขียนติชมด้วยความเป็นธรรม จำเลยแชร์ภาพและข้อความดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ว่า เมื่อราคาน้ำมันดิบลงถึง 50% แล้วราคาสินค้าในประเทศควรลงถึง 50% ด้วย การที่จำเลยรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และอธิบายให้กับประชาชนเข้าใจนั้นอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของจำเลย ตามคำสั่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เอกสารหมาย ล.2 ถึง ล.4 (ศาล) เห็นว่า ภาพข้อความดังกล่าวที่จำเลยนำไปเผยแพร่ลงเฟซบุ๊กมีถ้อยคำตำหนิด่าโจทก์ว่าเลวอยู่ด้วย สามารถเห็นได้โดยแจ้งชัดว่ามิใช่เป็นลักษณะที่ผู้เขียนติชมด้วยความเป็นธรรมแต่อย่างใด และหลังจากจำเลยนำภาพข้อความดังกล่าวไปเผยแพร่แล้ว ไม่ปรากฏว่า จำเลยได้วิเคราะห์และอธิบายข้อเท็จจริงทางวิชาการในเฟซบุ๊กของจำเลยให้ทราบว่าโจทก์บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานเชื้อเพลิงที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเรื่องใด อย่างไร
การที่จำเลยนำภาพข้อความดังกล่าวเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของจำเลยโดยลำพังแต่ข้อความเดียว แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยโดยชัดแจ้งว่าต้องการหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ที่จำเลยเบิกความว่า เหตุที่ไม่อธิบายเชิงวิชาการในเฟซบุ๊กของจำเลย เนื่องจากข้อวิเคราะห์ทางวิชาการจะอยู่ในเว็บไซต์ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และเว็บไซต์ของกระทรวงพลังงานแล้วนั้นไม่มีเหตุผลพอให้รับฟังว่า จำเลยกระทำในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตาหน้าที่ เพื่อป้องกันตน หรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม อันจะทำให้จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท เนื่องจากถ้าจำเลยมีเจตนาจะชี้แจงข้อเท็จจริงทางวิชาการให้ประชาชนทราบว่า โจทก์บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงาน ก็ควรต้องชี้แจงในเฟซบุ๊กของจำเลยให้ประชาชนที่อ่านพบข้อความดังกล่าวทราบในคราวเดียวกันด้วย พยานหลักฐานจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์”
ศาลได้พิพากษาว่า จำเลย (นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อพอได้ใจความในหนังสือพิมพ์รายวัน 4 ฉบับ คือ ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน และ ผู้จัดการ กับสื่อออนไลน์ 4 เว็บไซต์ คือ www.khaosod.co.th www.bangkokpost.com www.thaipost.net และ www.posttoday.com เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นตอนให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยโจทก์เห็นว่า จากวันที่ 8 ม.ค. 2563 ที่ศาลพิพากษาจนกระทั่งปัจจุบันจำเลยก็ยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยสมบูรณ์ ศาลจึงได้นัดพร้อมในวันนี้ โดยเสมียนทนายจำเลยยื่นแถลงต่อศาลว่าปฏิบัติครบถ้วนแล้ว ศาลจึงเห็นว่าในขั้นตอนนี้ จำเลยควรมาศาลเองเพื่อไกล่เกลี่ยกับโจทก์ จึงนัดพร้อมอีกครั้งโดยกำชับให้เสมียนทนายแจ้งจำเลยว่า ในวันที่ 15 ก.พ. 2564 เวลา 13.30 น. จำเลยจะต้องมาศาลด้วยตนเอง
“คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ต่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ว่า ควรจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นตัวอย่างอันดีต่อเพื่อนข้าราชการและผู้ใต้บังคับบัญชาต่อไป” ม.ล.กรกสิวัฒน์ ระบุ
อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มได้ที่ http://www.thaienergyreform.com/download/verasak-korn.pdf
อ่านคำพิพากษาฉบับย่อได้ที่
http://www.thaienergyreform.com/download/verasak-korn-newspaper.pdf?fbclid=IwAR0MEGTdzdoG5VbuF32LM6xV_AwjVttulyfWkDCfZz0e-_s3wLbc4dwL5nI