MGR Online - ปธ.คณะก้าวหน้า รับทีมพ่าย นายก อบจ.ไม่ได้สักจังหวัด แต่คว้า ส.อบจ.57 ที่นั่ง ใน 20 จว. ฉะเชิงเทรา-อุดรธานี ได้มากสุด 10 คน ขอโทษทำให้ผิดหวัง ชูได้ 2.67 ล้านคะแนน ภูมิใจความนิยมไม่ได้ลด ยันปี 64 ลุยตรวจสอบ ส่งลงเลือกตั้งท้องถิ่นอีก จี้เปิดผลโหวตรายหน่วยทันที รับพูดปมสถาบันกระทบคะแนน โวยไม่สามารถใช้หาเสียงได้เหมือนถูกชกฝ่ายเดียว
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะก้าวหน้า อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวหลังการนับคะแนนผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อย่างไม่เป็นทางการ ว่า ใน 42 จังหวัดที่เราได้ส่งตัวแทนลงเข้าแข่งขันนั้น คณะก้าวหน้าไม่สามารถช่วงชิงตำแหน่งนายก อบจ.มาได้เลยสักจังหวัด ปัจจัยที่สำคัญที่สุด ย่อมเป็นเพราะการทำงานของพวกเราที่ยังไม่หนักแน่นพอ ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ตนขอโทษประชาชนทุกคนที่ต้องผิดหวังด้วย
นายธนาธร กล่าวว่า แต่แม้จะไม่ได้ตำแหน่งนายก อบจ. ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ประสบความสำเร็จใดๆ เลย เราได้รับคะแนนทั้งหมด 2,670,798 คะแนน ซึ่งตนขอขอบคุณทุกคะแนนและความไว้วางใจที่ทุกคนมอบให้ นอกจากนี้ ยังช่วงชิงตำแหน่ง ส.อบจ.ได้ทั้งหมด 57 ที่นั่ง ใน 20 จังหวัด และยังมีส่วนร่วมผลักดันให้สังคมไทยได้รับรู้ถึงความสำคัญของ อบจ. ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ บ่งบอกว่า คณะก้าวหน้าไม่ได้รับความนิยมลดลงเมื่อเทียบกับสมัยพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งทั่วไป มี.ค. 2562 มีผู้มาใช้สิทธิใน 42 จังหวัด 19.6 ล้านคน พรรคได้รับคะแนนรวมกันกว่า 3.18 ล้านคะแนน ส่วนการเลือกตั้งวานนี้ มีผู้มาใช้สิทธิ 15.7 ล้านคน มีผู้เลือกเรา 2.6 ล้านคน แม้คะแนนดิบดูจะน้อยลง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนของคะแนนแล้ว จะเห็นได้ว่าในรอบ 1 ปีกว่าที่ผ่านมา คะแนนนิยมของเราไม่ได้ลดลง ดังนั้น คะแนนที่พวกเราได้มา เราจึงมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวต่อว่า เรายังมีความภาคภูมิใจได้เป็นส่วนสำคัญในการทำให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะการจะเดินหน้าเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูประบบราชการ ยุติการรวมศูนย์อำนาจที่รัฐราชการส่วนกลาง ซึ่งจะต้องแก้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ผ่านสภาผู้แทนราษฎรหรือการเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต จะต้องทำการเมืองท้องถิ่นที่ดี โปร่งใส เราได้แสดงให้เห็นว่า อบจ. มีงบประมาณจำนวนมาก การทำงานของ อบจ.ไม่ถูกตรวจสอบ เพราะมีคนสนใจน้อย และถูกผูกขาดมานาน ทำให้งบไม่ถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะการเมืองระดับชาติหรือจังหวัด ควรที่ต้องแข่งขันกันด้วยนโยบาย และไม่ซื้อสิทธิ ไม่ซื้อเสียง
นายธนาธร กล่าวถึงทิศทางคณะก้าวหน้าในปี 2564 ว่า จะสนับสนุน เสนอแนะ และช่วยตรวจสอบการทำงานของ อบจ.ผ่านกลไก ส.อบจ. ที่ได้รับเลือก จะทำงานการเมืองในระดับพื้นฐาน ไม่ว่าจะเทศบาลหรือ อบต. และรณรงค์ปักธงทางความคิดการเมือง เรื่องกระบวนการและเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สถานการณ์การเมือง การปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ ประธานคณะก้าวไกล ยังตั้งข้อสงสัยถึงการทำงานของผู้จัดการเลือกตั้ง ว่า ในหลายจังหวัดผลการเลือกตั้งถูกปิดประกาศเพียงชั่วครู่ก่อนถอนออกไป การหาผลเลือกตั้งยาก ตนจึงขอขอเรียกร้องให้มีการเปิดผลเลือกตั้งรายหน่วยและทุกหน่วยในทันที พร้อมยอมรับว่า การพูดเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงไม่มากก็น้อย แต่จะมากจะน้อยเท่าไหร่คงจะต้องประเมินกันในวันที่เราเห็นผลการเลือกตั้งรายหน่วยที่ชัดเจนมากกว่านี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พวกตนถูกใส่ความ ถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งภายใต้กฎหมายการเลือกตั้งเราไม่สามารถใช้สถาบันพระมหากษัตริย์มาหาเสียงมารณรงค์ได้ ดังนั้น เราเหมือนถูกมัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียวกับเรื่องนี้ในตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้งสิ้น 1,023 คนทั่วประเทศ ได้รับเลือกตั้ง 57 คน ประกอบไปด้วย พะเยา 1 คน, อุตรดิตถ์ 3 คน, ฉะเชิงเทรา 10 คน, ชลบุรี 1 คน, สมุทรปราการ 1 คน, สมุทรสาคร 1 คน, นนทบุรี 3 คน, อ่างทอง 1 คน, ภูเก็ต 1 คน, ยโสธร 7 คน, ร้อยเอ็ด 3 คน, มุกดาหาร 1 คน, อุดรธานี 10 คน, บึงกาฬ 1 คน, หนองคาย 5 คน, สกลนคร 2 คน, หนองบัวลำภู 2 คน, ลำพูน 2 คน, น่าน 1 คน และ ระยอง 1 คน