ส.ส.พปชร. ลงพื้นที่ภูเก็ต ตามบี้ยื่น 3 หน่วยงานสอบ ขรก.เอี่ยวออก น.ส.3ก. ให้เดอะพีค โครงการคอนโดหรู เผยอยู่ กทม.ยังเห็นความผิดปกติ ลั่นจะทวงคืนสมบัติชาติทุกแปลง
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่จังหวัดภูเก็ต นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พร้อมด้วย นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ ส.ส.เพื่อไทย ปทุมธานี ในฐานะคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่าน นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการออกเอกสารสิทธิที่ดินของ โครงการเดอะ พีค เรสซิเดนท์ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ทั้งการออกใบอนุญาตก่อสร้างและการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นอกจากนี้ ยังได้ยื่นหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ขอให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โดยมี นายสุคนธ์ หนูภัคดี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต รับมอบ และยื่นหนังสือถึงนายกเทศมนตรีตำบลกะรน เพื่อให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ พร้อมกันนี้ ได้แนบสำเนาคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หมายเลขคดีดำที่ อ.632/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1217/2563 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2536 ประกอบด้วย
นายสิระ เปิดเผยว่า การเดินทางมายื่นหนังสือถึง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ทั้งในส่วนของเทศบาลตำบลกะรน เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดภูเก็ต และ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดโครงการ เดอะพีค เรสซิเดนท์ ของ บริษัท กะตะ บีช จำกัด ที่ได้แถลงผลการตรวจสอบว่า การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดโครงการ เดอะพีค ชอบด้วยกฎหมายในทุกเรื่อง ทั้งการออกใบอนุญาตก่อสร้าง การศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตลอดจนผู้มีส่วนรู้เห็นอื่นๆ ว่า เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลประโยชน์ของโครงการดังกล่าวหรือไม่อย่างไร ทำไมการตรวจสอบครั้งนั้นจึงไม่พบความผิดใดๆ เลย
“ผมอยู่กรุงเทพฯ ยังเห็นความผิดปกติ เช่น ในการออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมเอกสารสิทธิจะต้องเป็นโฉนดเท่านั้น แต่ทางโครงการกลับนำ น.ส.3ก. ไปยื่น หรือกรณีเจ้าของโครงการวางเงิน จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อใช้ในการรื้อถอนหากไม่สามารถออกโฉนดไม่ได้ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าของโครงการรู้ว่าการสร้างคอนโดฯ ต้องใช้โฉนดที่ดินเท่านั้น” นายสิระ กล่าวและว่า ในส่วนของการยื่นหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตนั้น เพื่อให้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และยื่นหนังสือถึงนายกเทศมนตรีตำบลกะรน เพื่อให้ดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการเดอะพีค และให้มีคำสั่งรื้อถอนอาคารชุดดังกล่าว ซึ่งทางบริษัท กะตะ บีช เจ้าของโครงการได้วางเงินประกันความเสียหายในกรณีหากมีการเพิกถอน น.ส.3ก.ไว้แล้ว จำนวน 3 ล้านบาท โดยเร็ว และหลังจากมีการรื้อถอนแล้ว ตนจะเชิญภาคเอกชนและประชาชนมาร่วมกันฟื้นฟูที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยการร่วมกันปลูกป่าเพื่อให้เป็นสมบัติของชาติต่อไป โดยจะมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งการทวงคืนที่ดินสมบัติของชาติในจังหวัดภูเก็ตไม่ได้มีเฉพาะที่แปลงนี้แปลงเดียวแต่จะดำเนินการในทุกๆ แปลงที่พบว่ามีการออกเอสารสิทธิไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมาธิการได้รับเรื่องร้องเรียนและอยู่ระหว่างตรวจสอบประมาณ 2-3 แปลง ซึ่งเป็นการลงทุนโครงการคอนโดมีเนียมขนาดใหญ่ในพื้นที่หาดลายันและบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตลอดจนในพื้นที่ เกาะเต่า เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย
ทางด้าน นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า จะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาดำเนินการสั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวตามระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ทั้ง พ.ร.บ.เทศบาล, ประกาศกฎกระทรวงฉบับที่ 43, การออกใบอนุญาตก่อสร้าง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุกประเด็น
ขณะที่ นายสุคนธ์ หนูภัคดี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอน น.ส.3ก.ฉบับดังกล่าว เนื่องจากออกโดมิชอบด้วยกฎหมาย โดยจะทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินให้นำเอกสารสิทธิ น.ส.3 มาคืนให้กับสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เพื่อเก็บไว้ในสาระบบภายใน 15 วัน แต่หากไม่นำมาคืน ทางสำนักงานที่ดินจะออกใบแทนพร้อมประกาศให้ทราบเป็นเวลา 30 วัน หลังจากนั้นที่ดินแปลงดังกล่าวก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม