xs
xsm
sm
md
lg

ส.พระปกเกล้า พร้อมแนะยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จี้เปิดกว้างรณรงค์ทั้งหนุน-ค้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถาบันพระปกเกล้า พร้อมให้ความเห็นยกร่าง พ.ร.บ.ประชามติ “สติธร” แนะฉบับใหม่ควรเปิดกว้างให้ข้อดีข้อเสียให้ ปชช.ประกอบการตัดสินใจ พร้อมให้สิทธิรณรงค์ได้ทั้งเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยได้

วันนี้ (4 ธ.ค.) นายสติธร ธนานิธิโชติ ยังกล่าวถึงการที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติของสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญสถาบันพระปกเกล้าเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับรุปแบบของกฎหมายประชามติในแบบต่างๆ ว่า ทราบอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น แต่เรื่องนี้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องมีการพูดกัน เพราะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 15 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ต้องนำไปสู่การทำประชามติแน่ ที่สำคัญกฎหมายประชามติที่มีอยู่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าจะต้องออกกฎหมายใหม่ หรือปรับปรุงกฎหมายเก่าแล้วใช้ไปพลางก่อน แต่แนวโน้มน่าจะเป็นการเขียนกฎหมายใหม่ จึงเป็นเรื่องที่มีประเด็นทั้งในเชิงวิชาการ และขั้นตอน ทางสถาบันถ้าได้รับการประสานมาก็จะมีการเตรียมข้อมูลทางวิชาการ และอาจมีความเห็นประกอบว่าสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในแง่ของขั้นตอนกระบวนการควรเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ควรมีการเปิดกว้างให้ประชาชนสามารถรณรงค์เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประเด็นที่ทำประชามติหรือไม่ นายสติธรกล่าวว่า ถ้าเอาตามหลักการกระทำประชามติมีความสำคัญและสามารถรับรองความชอบธรรมของกฎหมายที่มีการนำไปทำประชามติได้ จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการที่เปิดกว้างเพราะการเปิดกว้างเสมือนเป็นการให้ความรู้ ข้อมูลประกอบการตัดสินใจกับประชาชนทั้งด้านดีและไม่ดี และยังเป็นกระบวนการมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญของประชามติ ถ้าไม่ทำ 2 เรื่องนี้โอกาสที่ทำประชามติไปแล้วประชาชนไม่ยอมรับมีสูง

ส่วนถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ร.ยกร่างขึ้นจะสามารถรณรงค์ได้หรือไม่ เห็นว่า ถ้ากฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ก็ควรเป็นสิ่งที่ทำได้ เวลานี้สิ่งที่เราจะนำไปให้ประชาชนตัดสินใจผ่านการทำประชามติคือวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และรูปแบบของ ส.ส.ร.ซึ่งย่อมต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย น่าจะเป็นเวทีที่ทุกคนมีโอกาสจะมาพูดคุยกันว่าที่เห็นด้วยเพราะอะไร มีข้อดีอย่างไร หรือมีรูปแบบอื่นที่ดีกว่า แต่สุดท้ายวันที่ลงประชามติจริงๆ ก็จะเป็นตัวตัดสินเองว่าแบบไหนที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ก็จะทำให้กระบวนการที่จะนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อไปในอนาคตมันสามารถเดินหน้าต่อไปได้


กำลังโหลดความคิดเห็น