"เศรษฐพงค์" ชี้ตลาด IoT แข่งขันแรง จี้ กสทช. เร่งพัฒนาโครงข่าย 5G รองรับการเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน-ธุรกิจ แนะ เร่งขยายเครือข่ายพื้นฐานให้ครอบคลุม-สมบูรณ์ทุกพื้นที่ เพิ่มช่องทางให้ประชาชนรองรับวิถีใหม่
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และรองประธานกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ว่า หลักใหญ่ใจความของการสื่อสารเคลื่อนที่ในยุค 5G จะนำผู้คนไปสู่การใช้งานอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความจุที่สูงขึ้นและมีการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น มีเวลาในการตอบสนองลดลง และมีเครือข่ายที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นและมีการแข่งขันกันอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่นำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น Smart home , Smart grids , Smart watch และ Connected car และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในหลายประเทศกำลังมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เพื่อให้ตัวเองเป็นผู้นำตลาด 5G ให้ได้ และเมื่อเครือข่าย 5G ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จะพบกับการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วมากขึ้น สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นและตอบสนองได้เร็วขึ้น แอปพลิเคชันทางธุรกิจ เช่น การผลิตระยะไกล การผ่าตัดทางไกล และประสบการณ์การค้าปลีกที่จะสมบูรณ์มากขึ้น ที่จะเชื่อมความสามารถออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้น
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า การเติบโตของ 5G จะยังช่วยตอบสนองการเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ IoT หรือการแพร่หลายของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย หรืออุปกรณ์อัจฉริยะต่าง หรือแม้แต่อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ ที่มีการใช้แบนด์วิดท์บนเครือข่ายมือถือ ในภาคธุรกิจต่างๆ ได้ฝังอุปกรณ์สำหรับติดตามไว้ในที่ต่างๆ เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ สายส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และเครื่องจ่ายไฟฟ้า โดยอุปกรณ์แต่ละตัวจะให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสถานะของสิ่งที่กำลังติดตามอยู่ เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองได้ง่ายขึ้นหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น และเพื่อติดตามการขนส่งสินค้าได้ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเองก็มีการนำเข้า รวมถึงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลต้องสนับสนุน เพราะการเติบโตของเทคโนโลยีในปัจจุบันถือว่าเร็วมาก หากเราตามไม่ทัน จะเสียโอกาส ทั้งในเรื่องของธุรกิจต่าง เศรษฐกิจของประเทศ และอาจจะรวมถึงความมั่นคงด้วย
"วันนี้โลกพัฒนาไปไกลถึงยุค 5G แล้ว และอีกไม่นานคงจะก้าวไปถึง 6G ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในประเทศไทยของเรานั้น ระบบโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคมยังไม่สามารถกระจายไปได้ถึงทุกพื้นที่เลย ดังนั้นวันนี้รัฐบาลรวมถึง กสทช. ต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีช่องทางในการสร้างความรู้ใหม่ๆ รวมทั้งการทำธุรกิจผ่านออนไลน์ได้ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีการวิจัยยารักษาอยู่ แต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว"พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว.
